24 มกราคม 2566

ขนาด Tesla ยังเกือบเคยล้มละลาย

 ขนาด Tesla ยังเกือบเคยล้มละลาย


ตัดภาพมาที่ปี 2022 คงไม่มีใครไม่รู้จักรถยนต์ไฟฟ้า Tesla และปฏิเสธไม่ได้ว่า Elon Musk เป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลบนโลกใบนี้ แต่ทราบหรือไม่ว่าช่วงวิกฤตการเงินในปี 2008 แม้แต่อัจฉริยะยอดมนุษย์อย่าง Elon Musk ก็ยังเคยเกือบจะล้มละลาย


หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า Tesla ไม่ใช่ธุรกิจแรกของ Elon แต่ก่อนหน้านี้เขาได้ประสบความสำเร็จจาก X.com มาก่อน และขายให้กับ Paypal ที่จนถึงทุกวันนี้ก็ยังเป็นผู้นำของวงการธุรกิจโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์อยู่


ในช่วงแรกๆ ของ Tesla เขาลงทุนทุกอย่างด้วยเงินของตัวเอง เพราะในตอนนั้นรถไฟฟ้าเป็นเรื่องใหม่มาก จนเขาก็ไม่มั่นใจว่ามันจะสำเร็จ เขาจึงไม่อยากเอาเงินของคนอื่นมาเสี่ยงด้วย


Elon เคยให้สัมภาษณ์ว่าเขานำเงินทั้งหมดที่ได้มาจาก Paypal มาลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้า เขาไม่มีแม้กระทั่งบ้านของตัวเอง และเขาก็ไม่มีทรัพย์สินอะไรที่จะเอามาขาย และเปลี่ยนเป็นเงินทุนได้อีกแล้ว 


วันที่ 24 ธันวาคม 2008 เวลา 6 โมงเย็น เป็นเวลาที่เขาจะปิดรับเงินลงทุน และเงินทุนก้อนสุดท้ายก็มาในชั่วโมงสุดท้ายจำนวน 50 ล้านเหรียญจากผู้ผลิตรถยนต์ในเยอรมัน Daimler




Elon เคยให้สัมภาษณ์ว่านั่นเป็นชั่วโมงที่มืดมนที่สุดของ Tesla ตอนนั้นเขาเหลือเวลาแค่อีก 1 ชั่วโมงเท่านั้น ก่อนที่บริษัทของเค้าจะล้มละลาย เช็คเด้งพร้อมกันหลายๆ ใบ และไม่มีเงินจะจ่ายให้กับพนักงาน


แม้กระทั่งในปี 2013 Tesla ก็ยังมีเงินหมุนเวียนในบริษัทพอแค่สำหรับค่าใช้จ่าย 1-2 อาทิตย์เท่านั้น


ในตอนนั้นทุกคนมองว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระที่จะผลิตรถไฟฟ้าในราคาแพงแสนแพง มันจะไปช่วยอะไรโลกได้ และจะมีซักกี่คนที่มีปัญญาซื้อ เขานั้นกำลังตำน้ำพริกละลายแม่น้ำอยู่หรือเปล่า


“คุณลองคิดถึงทุกนวัตกรรมใหม่ๆ บนโลกใบนี้สิ คอมพิวเตอร์ก็เคยเป็นของแพง มือถือก็เคยเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย ที่มีแต่คนรวยเท่านั้นที่เข้าถึงได้ เทคโนโลยีใหม่มันก็อย่างนี้แหละ เราต้องสร้างรถไฟฟ้าราคาแพงให้ได้ก่อน แล้วในอนาคตเราถึงจะมีรถไฟฟ้าราคาถูกได้”


คำตอบของ Elon ในวันนั้นก็แสดงให้เห็นแล้วในวันนี้ 


เรื่องนี้ให้บทเรียนอะไรเราบ้าง??


สำหรับทาร่ามี 2 เรื่องค่ะ 


  1. ขนาดอัจฉริยะยอดมนุษย์อย่าง Elon Musk ที่เคยประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่มาจาก Paypal มาแล้ว ยังต้องกลับไปที่จุดเริ่มต้นและพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งใน Tesla เลย ถ้าชีวิตคนธรรมดาอย่างเราจะมีขึ้นบ้าง ลงบ้าง ก็เป็นเรื่องปกติแหละเนอะ ตราบใดที่ยังมีความหวัง ทำวันนี้ให้ดีที่สุด อาจจะต้องใช้เวลาหน่อย แต่เมื่อถึงเวลาของมัน เดี๋ยวเราก็ได้ผลลัพธ์เอง


  1. ความฝันของเราจะชัดเจนก็แค่ในความคิดของเราเท่านั้น อย่าไปเสียเวลาเกลี้ยกล่อม อธิบาย หรือตอบคำถามคนอื่นที่ไม่ได้เห็นภาพเดียวกับเราเลย คนที่มีความฝันแบบเดียวกับเราเท่านั้นที่จะเข้าใจมัน และโลกจะเหวี่ยงให้คนแบบเดียวกับเราให้โคจรมาร่วมทางกับเราในที่สุด


ทาร่าขอฝากบทความนี้ไว้เป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ที่กำลังเดินทางตามความฝันของตัวเองทุกคนนะคะ 


สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าค่ะ 


ปี 2023 ใครมีเป้าหมายอะไรกันบ้าง แวะมาแชร์กันหน่อยนะคะ


🤗🤗🤗🤗🤗



เกี่ยวกับเรา


Tara Thow อ่านว่า ทาร่า โถว เป็นมนุษย์แม่ลูกสองอยู่ที่ซิดนีย์ สนใจศาสตร์พัฒนาตัวเอง ปรัชญา ธุรกิจ ครอบครัว รักเสียงเพลง ไวน์แดง และนิยาย


#โค้ชชิ่งด้วยNLPสะกดจิตบำบัดเส้นเวลาบำบัด


#เวิร์กช็อปสูตรความรักหัวใจ6ห้อง


#หนังสือเปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ


#สอนภาษาไทยให้เด็กๆที่เกิดต่างประเทศ


#อบรมครูสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ


💞 💞💞💞💞


ช่องทางในการติดตามเราจ้าา.. 😘


Facebook: https://www.facebook.com/pagetarathow


IG: tarathow


Youtube: https://www.youtube.com/c/TaraThow


Blockdit 2: จุด by Tara Thow


Twitter: @tarathow


Blogspot: tarathow.blogspot.com


Tiktok: @tarathow


Line: @tarathow




23 มกราคม 2566

"ปัญหา" ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด

 "ปัญหา" ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด 


สำหรับใครที่กำลังมีปัญหา ทั้งเหนื่อย ทั้งท้อ จนอยากจะยอมแพ้ หรือหลับไปแล้วไม่ตื่นขั้นมาอีกเลย 


บางทีก็สงสัยนะว่าเรามันไม่ดีตรงไหน เราทำอะไรผิดนักหนา ทำไมอะไรๆ ถึงได้ยากเย็น โชคชะตาไม่เข้าข้างเราบ้างเลย จนอยากจะตะโกนออกมาดังๆ ว่า โลกเราช่างไม่ยุติธรรมเอาซะเลย!!!!


มาค่ะ วันนี้ทาร่ามีวิธีจัดการกับทุกปัญหาง่ายๆ แค่คุณเข้าใจเรื่องนี้…


ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจก่อนว่า สาเหตุที่ปัญหาเป็นปัญหา มันไม่ได้อยู่ที่ปัญหา แต่มันอยู่ที่ตัวเรากับทรัพยากรในมือของเรา และทางออกจากปัญหาที่ง่ายที่สุด คือ


  1. ถามตัวเองว่าปัญหาของเรามันเป็นปัญหากับทุกคนบนโลกนี้รึเปล่า (แน่นอนว่า ไม่)

  2. แล้วปัญหาของเรามันไม่ใช่ปัญหาของใคร (เยอะแยะ)

  3. คนพวกนั้นเค้ามีอะไรที่เราไม่มี 

  4. และทำยังไงเราถึงจะมีสิ่งที่เค้ามีได้ 




หากยังไม่เจอคำตอบ ให้ถามตัวเองข้อ 2-4 วนไปเรื่อยๆ คนแบบไหนอีกที่จะไม่มีวันมีปัญหาแบบนี้?? เค้ามีอะไรที่เราไม่มี?? ทำยังไงเราถึงจะมีสิ่งที่เค้ามีได้?? 


ถ้ายังไม่เจอก็ถามอีกครั้ง… ปัญหาของเราไม่ใช่ปัญหาของใครอีก??? ทำไม?? แล้วทำยังไงเราถึงจะเป็นแบบนั้นได้??


ยกตัวอย่าง เช่น facebook ปิดกั้นการมองเห็นอาจจะเป็นปัญหาของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หลายๆ คน 


แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทุกคน… เรากับเค้าต่างกันตรงไหนล่ะ??


เค้ามีการทำคอนเทนต์ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบบออร์แกนิคมากกว่าเราเหรอ??


แล้วทำยังไงเราถึงจะทำคอนเทนต์แบบเค้าได้?? 


เรียนเพิ่มมั้ย?? จ้างมืออาชีพมั้ย?? ถามคนที่เค้ามีความรู้มากกว่าเรามั้ย??


พูดง่ายๆ เลย สาเหตุที่เรายังออกจากปัญหาไม่ได้ เพราะความรู้ ประสบการณ์ เงินทุน คอนเนคชั่น ของเรายังจำกัดอยู่ ถ้าเราสามารถขยายทรัพยากรใด ทรัพยากรนึงในมือได้ แค่นี้เราก็สามารถออกจากปัญหาเดิมได้แล้ว


หลายคนอาจจะยังมีคำถามต่อ แล้วทรัพยากรที่เราขาดอยู่นี่จะไปหามาจากไหน??


ง่ายที่สุด คือ การลองออกนอก comforn zone (พื้นที่ปลอดภัย) ของตัวเองค่ะ ลองไปที่ใหม่ๆ ทำอะไรใหม่ๆ อ่านหนังสือหมวดใหม่ๆ เจอเพื่อนใหม่ๆ หรือลงคอร์สเรียนใหม่ๆ ที่อาจจะไม่เกี่ยวกับความสนใจตามปกติของเราดูบ้าง 


ถ้าคิดแบบเดิม ทำแบบเดิมแล้วมันไม่เวิร์ค ก็ลองคิดแบบใหม่ ทำแบบใหม่ดูบ้าง ง่ายๆ แค่นี้เองค่ะ



🤗🤗🤗🤗🤗



เกี่ยวกับเรา


Tara Thow อ่านว่า ทาร่า โถว เป็นมนุษย์แม่ลูกสองอยู่ที่ซิดนีย์ สนใจศาสตร์พัฒนาตัวเอง ปรัชญา ธุรกิจ ครอบครัว รักเสียงเพลง ไวน์แดง และนิยาย


#โค้ชชิ่งด้วยNLPสะกดจิตบำบัดเส้นเวลาบำบัด


#เวิร์กช็อปสูตรความรักหัวใจ6ห้อง


#หนังสือเปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ


#สอนภาษาไทยให้เด็กๆที่เกิดต่างประเทศ


#อบรมครูสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ


💞 💞💞💞💞


ช่องทางในการติดตามเราจ้าา.. 😘


Facebook: https://www.facebook.com/pagetarathow


IG: tarathow


Youtube: https://www.youtube.com/c/TaraThow


Blockdit 2: จุด by Tara Thow


Twitter: @tarathow


Blogspot: tarathow.blogspot.com


Tiktok: @tarathow


Line: @tarathow




22 มกราคม 2566

ใช้ได้จริง! ถามเรื่องยากๆ ยังไงให้คนฟังแล้วไม่อึดอัด

 ใช้ได้จริง! ถามเรื่องยากๆ ยังไงให้คนฟังแล้วไม่อึดอัด 


ทุกคนเคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบ ‘อยากถามนะ แต่ไม่รู้เธออยากตอบไหม?’ หรืออารมณ์ประมาณว่า คำถามนี้สำคัญมากๆ ‘เราจำเป็นต้องรู้ แต่ถ้าเราถามไปตรงๆ คนตอบอาจจะรู้สึกอึดอัดได้’ แบบนี้มั้ยคะ


ทาร่าเป็นคนนึงที่ (เคย) ต้องการข้อมูลเชิงลึกแบบนี้อยู่บ่อยๆ (สมัยที่ยังทำงานด้านสินเชื่อ) คือเราต้องรู้ลึก รู้จริง ยิ่งกว่าแฟนพันธุ์แท้ เพื่อรวบรวมข้อมูลให้สถาบันการเงินพิจารณาว่าจะควรจะปล่อยกู้มั้ย และปล่อยเท่าไหร่


เทคนิคนึงที่ทาร่าใช้แล้วได้ผลมากๆ อยากเอามาแชร์กับเพื่อนๆ ด้วย คือ เริ่มถามจากคำถามง่ายๆ ก่อน ให้เค้าตอบจนรู้สึกคุ้นชินกับเรา แล้วค่อยขยับไปคำถามที่ยากขึ้น ลึกขึ้น 




แทนที่จะเริ่มจาก รายได้เท่าไหร่ รายจ่ายเท่าไหร่ มีเงินเก็บเท่าไหร่ สินทรัพย์อื่นๆ มีอะไรบ้าง ถ้าเปิดบทสนทนามาแบบนี้มานี่ลูกค้านั่งตัวเกร็งเลยนะ


แต่เราเปลี่ยนมาเป็น อันนี้เป็นบ้านหลังแรกรึเปล่า จะอยู่เองหรือเอาไว้ลงทุน ได้เริ่มดูบ้านบ้างรึยัง เคยปรึกษาที่ไหนมาก่อนมั้ย เตรียมเงินดาวน์ไว้เท่าไหร่ แล้วก็ค่อยๆ ไล่ระดับความลึกของคำถามลงไป แบบนี้ลูกค้าจะสบายใจแล้วลื่นไหลกว่า


เทคนิคง่ายๆ แบบนี้เพื่อนๆ สามารถนำไปได้ในทุกสถานการณ์เลยนะคะ ทั้งเรื่องงานแล้วก็เรื่องส่วนตัว


ใครนำไปใช้แล้วได้ผลยังไง กลับมาเล่าให้ฟังกันบ้างนะคะ


🤗🤗🤗🤗🤗



เกี่ยวกับเรา


Tara Thow อ่านว่า ทาร่า โถว เป็นมนุษย์แม่ลูกสองอยู่ที่ซิดนีย์ สนใจศาสตร์พัฒนาตัวเอง ปรัชญา ธุรกิจ ครอบครัว รักเสียงเพลง ไวน์แดง และนิยาย


#โค้ชชิ่งด้วยNLPสะกดจิตบำบัดเส้นเวลาบำบัด


#เวิร์กช็อปสูตรความรักหัวใจ6ห้อง


#หนังสือเปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ


#สอนภาษาไทยให้เด็กๆที่เกิดต่างประเทศ


#อบรมครูสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ


💞 💞💞💞💞


ช่องทางในการติดตามเราจ้าา.. 😘


Facebook: https://www.facebook.com/pagetarathow


IG: tarathow


Youtube: https://www.youtube.com/c/TaraThow


Blockdit 2: จุด by Tara Thow


Twitter: @tarathow


Blogspot: tarathow.blogspot.com


Tiktok: @tarathow


Line: @tarathow



21 มกราคม 2566

สะกดจิตลูกค้าให้ชอบ เทคนิคดีๆ ที่ใช้เองและอยากบอกต่อ!

 สะกดจิตลูกค้าให้ชอบ เทคนิคดีๆ ที่ใช้เองและอยากบอกต่อ!


ถ้าคุณเป็นนักธุรกิจ พ่อค้า แม่ขาย หรือเป็นคนธรรมดาที่อยากลองขายสินค้าหรือบริการ อยากทำยังไงก็ได้ให้เพิ่มยอดขายได้แบบปังๆ โดยไม่ต้องเสียเงินยิงแอด หรือ จ้างอินฟลูฯ TikTok ให้เปลือง วันนี้ทาร่ามีเทคนิคที่ใช้เองแล้วได้ผล มาแชร์กับเพื่อนๆ ค่ะ


เทคนิคนี้มีชื่อว่า Pre-Frame แปลว่า การให้ข้อมูลไปล่วงหน้า เพื่อที่ ในตอนที่เค้าไปถึงจุดนั้น เค้าจะรู้มาก่อนแล้วว่าจะต้องรู้สึกยังไง


ทาร่าว่าเพื่อนๆ ต้องคุ้นกับสถานการณ์แบบนี้บ้างแหละ


เช่น เวลาไปซื้อครีม แล้วเจอคนขายพูดว่า “อันนี้ตัวใหม่เลย ทำจากโสมเกาหลี ตัวเดียวใช้ได้ทั้งเช้าและเย็นเลย เพราะเนื้อครีมเค้าเข้มข้นแต่บางเบา แล้วกลิ่นหอมมาก ทาแล้วผิวนุ่มสัมผัสได้เลยทันที” ว่าแล้วก็ค่อยๆ ป้ายครีมลงไปบนหลังมือของเรา แล้วถามว่า เป็นยังไง??


อ่าาา… มันก็เป็นแบบที่เค้าพูดมาทั้งหมดนั่นแหละ จริงมั้ย??




เพราะอะไร?? เพราะเค้าได้ปูภาพไว้ให้เราล่วงหน้า แล้วว่าเนื้อครีมของเค้ามันเป็นยังไง 


มันเหมือนสมองเราเดินเข้าไปในป่าใหญ่ แล้วขี้เกียจตัดต้นไม้ ถางใหญ่ สร้างเส้นทางใหม่ด้วยตัวเอง พอไปถึงป่าปุ๊บ มันก็มองหาเส้นทางที่มีคนเคยทำไว้แล้ว แล้วก็ไปทางนั้นแหละ หนึ่งมันง่าย สองปลอดภัยกว่า เส้นทางที่ยังไม่มีใครไป


ซึ่งเทคนิคเดียวกันนี้ เราสามารถเอามาปรับใช้ในการขายของเราได้ด้วยค่ะ อยากให้ลูกค้ารู้สึกยังไง บอกเค้าไปก่อนเลยค่ะ อย่าปล่อยให้เค้าต้องคิดเอง


ใครที่เคยมีประสบการณ์ pre-frame (หรือถูกคนอื่น pre-frame 😅) แวะมาแชร์ประสบการณ์กันได้นะคะ



🤗🤗🤗🤗🤗



เกี่ยวกับเรา


Tara Thow อ่านว่า ทาร่า โถว เป็นมนุษย์แม่ลูกสองอยู่ที่ซิดนีย์ สนใจศาสตร์พัฒนาตัวเอง ปรัชญา ธุรกิจ ครอบครัว รักเสียงเพลง ไวน์แดง และนิยาย


#โค้ชชิ่งด้วยNLPสะกดจิตบำบัดเส้นเวลาบำบัด


#เวิร์กช็อปสูตรความรักหัวใจ6ห้อง


#หนังสือเปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ


#สอนภาษาไทยให้เด็กๆที่เกิดต่างประเทศ


#อบรมครูสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ


💞 💞💞💞💞


ช่องทางในการติดตามเราจ้าา.. 😘


Facebook: https://www.facebook.com/pagetarathow


IG: tarathow


Youtube: https://www.youtube.com/c/TaraThow


Blockdit 2: จุด by Tara Thow


Twitter: @tarathow


Blogspot: tarathow.blogspot.com


Tiktok: @tarathow


Line: @tarathow




20 มกราคม 2566

อยากปิดการขายง่ายๆ อย่าพูดเรื่องนี้ค่ะ

 อยากปิดการขายง่ายๆ อย่าพูดเรื่องนี้ค่ะ 


หลายคนที่เป็นนักขายมือใหม่ ที่แบบสงสัยว่า เอ๊ะ ทำไมคุยแชทกันอยู่ดีๆ แล้วแชทหนักขวา ทำไมเราถามไปลูกค้าไม่ตอบ หายไปแบบหายไปเฉยยยย เป็นไปได้ว่า คุณอาจจะไปกด ‘ปุ่มเตือนภัย’ ส่งสัญญาณ ‘อย่าซื้อ’ ให้เค้าโดยที่ไม่รู้ตัวก็ได้ค่ะ


ทาร่าอยากเล่าถึงจิตวิทยา การขายของ 1 ข้อให้ฟังค่ะ เป็นจิตวิทยาที่เหล่านักขายมือทองใช้กันมา ยาวนานต่อเนื่อง และประสบความสำเร็จจากจิตวิทยาข้อนี้ค่ะ


เทคนิคคือ “อย่าใช้คำศัพท์ที่ลูกค้าไม่ต้องการในการสนทนา” 


แต่ไม่ได้หมายความว่าให้เราไปโกหกลูกค้านะ เรายังต้องเสนอความจริง คำแนะนำ คำเตือน ข้อควรระวังทุกอย่างตามจรรยาบรรณที่พ่อค้า แม่ค้า คนทำธุรกิจควรมี เพียงแต่ให้เราเลี่ยงคำศัพท์ที่ลูกค้าไม่อยากได้ยิน 





เช่น ถ้าจะขายการลงทุน ก็ให้เปลี่ยนจากประโยคที่ว่า “พอร์ตแบบนี้มันเสี่ยงนิดนึงนะคะ” เป็น “การลงทุนแบบนี้มันไม่ได้ปลอดภัยเท่ากับการลงทุนประเภทอื่น” 


เปลี่ยนจากคำว่า “เสี่ยง” ที่ได้ยินแล้วไซเร้นดัง วี้หว่อ วี้หว่อ อยู่ในหัวลูกค้าโดยที่เค้าไม่รู้ตัว 


เลี่ยงมาใช้คำว่า “ไม่ปลอดภัย” ที่มีความหมายเดียวกัน แต่ฟังแล้วสัญญาณเตือนภัยไม่ดังในหัวลูกค้า แบบนี้เค้าก็จะยังไม่รีบปิดกั้นข้อมูลที่เรากำลังจะเล่าต่อ 


เทคนิคจิตวิทยาง่ายๆ แค่นี้ ลองเอาไปฝึกพูดให้เป็นนิสัย รับรองว่าปิดการขายได้เยอะขึ้นแน่ๆ ค่ะ


ใครเอาไปใช้แล้วได้ผลยังไง กลับมาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ 


🤗🤗🤗🤗🤗



เกี่ยวกับเรา


Tara Thow อ่านว่า ทาร่า โถว เป็นมนุษย์แม่ลูกสองอยู่ที่ซิดนีย์ สนใจศาสตร์พัฒนาตัวเอง ปรัชญา ธุรกิจ ครอบครัว รักเสียงเพลง ไวน์แดง และนิยาย


#โค้ชชิ่งด้วยNLPสะกดจิตบำบัดเส้นเวลาบำบัด


#เวิร์กช็อปสูตรความรักหัวใจ6ห้อง


#หนังสือเปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ


#สอนภาษาไทยให้เด็กๆที่เกิดต่างประเทศ


#อบรมครูสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ


💞 💞💞💞💞


ช่องทางในการติดตามเราจ้าา.. 😘


Facebook: https://www.facebook.com/pagetarathow


IG: tarathow


Youtube: https://www.youtube.com/c/TaraThow


Blockdit 2: จุด by Tara Thow


Twitter: @tarathow


Blogspot: tarathow.blogspot.com


Tiktok: @tarathow


Line: @tarathow



19 มกราคม 2566

อยากมีสุขภาพดีต้องมี 1 ทักษะนี้

 อยากมีสุขภาพดีต้องมี 1 ทักษะนี้


ใครๆ ก็อยากมีสุขภาพดีกันทั้งนั้น โดยเฉพาะคนวัยกลางคนที่นับวันยิ่งจะเข้าใจสุภาษิตที่ว่า “ไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ


แต่ที่น่าสนใจ คือ ทุกคนอยากมีสุขภาพดี แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีสุขภาพดี เรื่องนี้ ดร. ชิอน คาบาซาวะ ได้แชร์ไว้ในหนังสือ “สู่จุดสูงสุดของชีวิต ด้วยพีระมิดสามสุข” ถึง 1 ข้อแตกต่างระหว่างคนที่สุขภาพดี กับ คนที่สุขภาพไม่ดี นั่นคือ ทักษะ “การตระหนักรู้” นั่นเอง


ดร.คาบาซาวะ เล่าไว้ว่า ถ้าคุณอยากมีสุขภาพดี คุณต้องมีทักษะ “การตระหนักรู้” คือ หมั่นสังเกตุสุขภาพตัวเองบ่อยๆ 


เอ้ วันนี้ทำไมเราตื่นมาแล้วไม่ค่อยมีแรง ไม่ค่อยสดชื่นเลย เราต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว และถ้ายังไม่ดีขึ้น คนกลุ่มนี้จะรีบมาพบคุณหมอ เพื่อตรวจเช็คอย่างละเอียดและขอคำแนะนำ


คนกลุ่มที่สังเกตความผิดปกติของร่างกายตัวเองได้เร็ว “ตระหนักรู้” ว่ามีบางอย่างไม่โอเคกับร่างกาย แล้วมาพบคุณหมอไว โอกาสที่จะพบเจอโรคภัยเร็ว รักษาเร็ว ร่างกายก็จะไม่ทรุดง่าย 




ส่วนคนอีกกลุ่มนึงนั้น………. 


มักจะมาหาหมอในตอนที่สายเกินไป ถ้าไม่รักษายาก ก็รักษาไม่ได้แล้ว และเมื่อสอบถามเพิ่มเติมมักจะได้รับคำตอบประเภท คิดว่าไม่เป็นไร คิดว่าเดี๋ยวก็หายเอง 


คนกลุ่มนี้ขาดทักษะ “การตระหนักรู้” หรือรู้แต่ก็มองข้าม และไม่ให้ความสำคัญกับสุขภาพตัวเองนั่นเอง


รู้อย่างนี้แล้ว มาฝึกทักษะ “ตระหนักรู้” ของเรากันนะคะ อย่ารอให้ทรุดแล้วค่อยหาทางรักษา ทางที่ดี เราควรจะหาหมอตั้งแต่อาการยังน้อยๆ หรือถ้าจะให้ดีกว่านั้น เราควรดูแลสุขภาพ ป้องกัน และตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอกันด้วยนะคะ


🤗🤗🤗🤗🤗



เกี่ยวกับเรา


Tara Thow อ่านว่า ทาร่า โถว เป็นมนุษย์แม่ลูกสองอยู่ที่ซิดนีย์ สนใจศาสตร์พัฒนาตัวเอง ปรัชญา ธุรกิจ ครอบครัว รักเสียงเพลง ไวน์แดง และนิยาย


#โค้ชชิ่งด้วยNLPสะกดจิตบำบัดเส้นเวลาบำบัด


#เวิร์กช็อปสูตรความรักหัวใจ6ห้อง


#หนังสือเปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ


#สอนภาษาไทยให้เด็กๆที่เกิดต่างประเทศ


#อบรมครูสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ


💞 💞💞💞💞


ช่องทางในการติดตามเราจ้าา.. 😘


Facebook: https://www.facebook.com/pagetarathow


IG: tarathow


Youtube: https://www.youtube.com/c/TaraThow


Blockdit 1: มนุษย์แม่ลูกสองจากเมืองซิดนีย์ By Tara Thow


Blockdit 2: จุด by Tara Thow


Twitter: @tarathow


Blogspot: tarathow.blogspot.com


Tiktok: @tarathow


Line: @tarathow



18 มกราคม 2566

แจกเทคนิคนั่งสมาธิขั้นเทพที่เหล่ามหาเศรษฐีต่างชาติใช้กัน

 แจกเทคนิคนั่งสมาธิขั้นเทพที่เหล่ามหาเศรษฐีต่างชาติใช้กัน

ถ้าใครเคยอ่านบทสัมภาษณ์ของนักธุรกิจ นักลงทุน มหาเศรษฐี ชาวต่างชาติที่เขาประสบความสำเร็จ เรามักจะเจอว่าพวกเขา มีวิธีการที่เขาชอบทำคือ “นั่งสมาธิ” อย่างบิล เกตต์ เจ้าพ่อไมโครซอฟท์ ยังเคยสารภาพเลยว่า เมื่อก่อนเขาแอนตี้การนั่งสมาธิมาก รู้สึกงมงาย ไร้สาระ แต่พอเขาเริ่มนั่งจริงจัง เขาก็บอกว่ามันดีมากๆ กับการสร้างสติของคุณ 


การนั่งสมาธิ ภาษาอังกฤษคือ Meditation เราตั้งสติจดจ่อ กับตัวเอง หรือโฟกัสเป็นหมวดหมู่ไปเลย เช่น สุขภาพ ดึงดูดเงิน ทำความเข้าใจกับความสัมพันธ์ระหว่างเรากับคนรอบข้าง การงาน ทำความรู้จักกับตัวเอง 



 

วันนี้ทาร่าเลยจะมาแชร์เทคนิคที่ฝรั่งเขานั่งสมาธิกัน โดยเป็นเทคนิคเรกิ (霊気 / reiki) คือ การเยียวยาบำบัดด้วยพลังธรรมชาติ ของ Master Usui 


ฉันจะไม่โกรธ



1.หาที่นั่งสบายๆ หรือ นอนหลับตา ลืมตา ทำตัวให้สบาย 


2.เมื่อเราอยู่ในท่าที่สบาย ให้หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกช้าๆ 


3.สติจดจ่อ อยู่กับลมหายใจตัวเอง 


4.เริ่มสำรวจความโกรธ ความกังวลว่าอยู่ที่ตรงไหนในร่างกายของตน


5.เมื่อเราเจอความโกรธ ให้เราเอาสติไปดับตรงนั้น


6.สังเกตุความโกรธ ความกังวล ถ้ายังหลงเหลืออยู่ให้จับมัน แล้วปล่อยพร้อมลมหายใจออก


7.หรือให้เราสำรวจตัวเองในหลายๆ ด้าน พูดคุยกับตัวเอง มีสมาธิจดจ่อกับตัวเองให้มากที่สุด เมื่อสำรวจตัวเองหมดแล้ว ให้เราค่อยๆ นับถอยหลัง 3 2 1 แล้วลืมตา


ถ้าใครอยากลองนั่งสมาธิตามชมคลิปทาร่าได้เลยค่ะ https://www.youtube.com/watch?v=NVGatEPAcGA&t=2s 


🤗🤗🤗🤗🤗



เกี่ยวกับเรา


Tara Thow อ่านว่า ทาร่า โถว เป็นมนุษย์แม่ลูกสองอยู่ที่ซิดนีย์ สนใจศาสตร์พัฒนาตัวเอง ปรัชญา ธุรกิจ ครอบครัว รักเสียงเพลง ไวน์แดง และนิยาย


#โค้ชชิ่งด้วยNLPสะกดจิตบำบัดเส้นเวลาบำบัด


#เวิร์กช็อปสูตรความรักหัวใจ6ห้อง


#หนังสือเปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ


#สอนภาษาไทยให้เด็กๆที่เกิดต่างประเทศ


#อบรมครูสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ


💞 💞💞💞💞


ช่องทางในการติดตามเราจ้าา.. 😘


Facebook: https://www.facebook.com/pagetarathow


IG: tarathow


Youtube: https://www.youtube.com/c/TaraThow


Blockdit 1: มนุษย์แม่ลูกสองจากเมืองซิดนีย์ By Tara Thow


Blockdit 2: จุด by Tara Thow


Twitter: @tarathow


Blogspot: tarathow.blogspot.com


Tiktok: @tarathow


Line: @tarathow