16 มีนาคม 2566

ลอกนิสัยคนสำเร็จ ต้องทำแบบนี้!!!

เพื่อนๆ ที่ชอบพัฒนาตัวเอง อยากให้ตัวเองเติบโต ไม่อยากอยู่กับที่ ต้องเคยฟังประโยคที่ว่า “ถ้าอยากสำเร็จ เราก็ลอกนิสัยคนสำเร็จมาเลย” ใช่ไหมคะ ใครเคยลองปรับใช้แล้วพบว่าได้ผล หรือ ไม่ได้ผล มาเมาท์มอยกันได้น้าา 

ทาร่าเองก็เชื่อแบบนั้นค่ะ แต่มันก็มีมีบางนิสัยที่เราลอกเค้ามาแล้วรู้สึกขัดใจ ไม่เป็นเนื้อเดียวกับตัวเองเลย ทำไปแล้วไม่มีความสุข ทำได้ไม่นาน สุดท้ายก็ไม่สำเร็จสักที จนกระทั่งทาร่าได้มาเจอกับเทคนิคนี้ค่ะ 👇


“อย่าลอกแค่นิสัย ต้องลอกแนวคิดมาด้วย”


เรื่องมันมีอยู่ว่า ทาร่าอยากลดน้ำหนักค่ะ เลยไปคุยกับเพื่อนที่หุ่นดีคนนึงแล้วถามเค้าว่าทำยังไง??


ทาร่าขอให้เค้าเป็น accountability partner แล้วทำข้อตกลงกันไว้ว่า ทุกอย่างที่ผ่านปากเค้าในแต่ละวันจะต้องถ่ายรูปมาให้ทาร่าดู ทาร่าอยากเห็นว่าเค้ากินอะไร เท่าไหร่ แล้วบ่อยแค่ไหน แล้วทาร่าเองก็ทำเหมือนกัน




วิธีนี้ก็ช่วยได้เยอะนะ บางเมนู (คลีน) เราก็ลอกเค้ามาเลย บางเมนูที่เราคิดว่าคนผอมเค้าไม่กินกันหรอก ทั้งอาหาร ทั้งขนม ทั้งเครื่องดื่ม ทาร่าก็ได้เห็นว่าเพื่อนทาร่าก็กินนะ แต่กินน้อยมากกกก


สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น คือ น้ำหนักลงนะ แต่ทาร่าไม่มีความสุขเลย จนต้องกลับไปถามเพื่อนอีกครั้ง ใช้ชีวิตแบบนี้แล้วจะมีความสุขได้ยังไงอ่ะ?? 


เชื่อมั้ยว่าคำตอบที่ได้ เปิดโลกทัศน์ทาร่ามาก เค้าบอกว่า ก็มีความสุขที่ได้ดูแลตัวเองไง เวลาเห็นหุ่นตัวเองแล้วก็ภูมิใจ รักตัวเอง ชื่นชมตัวเอง เค้ารู้สึกดีทุกครั้งที่ได้กินอาหารเพื่อสุขภาพ เวลาเห็นของทอด ของมัน ของหวาน ก็รู้สึกไม่อยากกินอ่ะ 


ไม่ใช่อยากกินแต่กินไม่ได้นะ เค้ากินได้แต่เค้าไม่อยากกิน!!


เหยยย… นี่มันเป็นชุดความคิดที่ไม่เคยอยู่ในหัวทาร่าเลย เมื่อก่อนทาร่าเป็นคนเอ็นจอยกับการกินมาก ทั้งของทอด ของมัน ของหวาน คือชอบมาก เวลาถ่ายรูปลงโซเชียลแล้วรู้สึกเท่ห์ ชีวิตชั้นดี ชั้นมีความสุข ส่วนเวลากินอาหารเพื่อสุขภาพทาร่ารู้สึกว่ามันน่าเบื่อ มันไม่เท่ห์ ชีวิตไม่มีสีสัน ชั้นไม่มีความสุขเลย ซึ่งมันเป็นชุดความคิดที่เป็นอุปสรรคในการลดน้ำหนักมาก


ทาร่ารู้เลยว่าไม่มีทางประสบความสำเร็จได้แน่ถ้ายังมีชุดความคิดแบบเดิมอยู่ และวิธีที่ทาร่าใช้ในการป้อนโปรแกรมใหม่ให้ตัวเอง คือ คัดลายมือทุกเช้าค่ะ 


ทาร่าคัดชุดความคิดใหม่ (ที่ได้มาจากเพื่อน) ทุกเช้า จนเรา (ค่อยๆ) คิดแบบนั้นจริงๆ ทุกวันนี้กินอาหารเพื่อสุขภาพแล้วรู้สึกดีมาก ภูมิใจ ดีใจที่ได้ดูแลตัวเอง 


พอเราเริ่มคิดเหมือนคนสำเร็จ เราก็จะทำเหมือนคนสำเร็จโดยอัตโนมัติ แล้วผลลัพธ์แบบคนสำเร็จมันจะไปไหนเสีย แค่ 2 เดือน ลงไป 5 โลแล้วค่ะ แล้วเป็น 5 โลที่ง่ายและชิลมากๆ ด้วย 


เพื่อนๆ ลองเอาไปปรับใช้กันดูนะคะ ได้ผลยังไง กลับาเม้าท์มอยให้ทาร่าฟังบ้างน้าาาา


ชอบสาระความรู้ดีๆ แบบนี้ ฝากเพิ่มเพื่อนในไลน์ @tarathow ไว้หน่อยนะคะ


🤗🤗🤗🤗🤗


เกี่ยวกับเรา


Tara Thow อ่านว่า ทาร่า โถว เป็นมนุษย์แม่ลูกสองอยู่ที่ซิดนีย์ สนใจศาสตร์พัฒนาตัวเอง ธุรกิจ ปรัชญา ครอบครัว รักเสียงเพลง และซีรีย์วาย


#ฟรีความรัก101จุดเริ่มต้นของความรักในฝัน

#โค้ชชิ่งด้วยNLP


#หนังสือเปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ


#สอนภาษาไทยให้เด็กๆที่เกิดต่างประเทศ


#อบรมครูสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ


15 มีนาคม 2566

อยากมีอิสรภาพในการใช้ชีวิต ต้องอ่านโพสต์นี้

 สำหรับมนุษย์เงินเดือนต้องตอกบัตรเข้างาน เช้า เย็น สิ่งหนึ่งที่เป็นสิ่งหอมหวานในชีวิตคือคำว่า อิสรภาพในการใช้ชีวิต แต่อีกใจนึง เราก็กลัวค่ะ กลัวความเปลี่ยน กลัวความไม่มั่นคง กลัวว่าอะไรๆ มันจะไม่ดีเหมือนที่เราคิดไว้

เรื่องนี้หนังสือ Tools of Titans ของ Tim Ferriss นักเขียนในใจทาร่าได้เล่าถึง วิธีเอาชนะความกลัว ที่ง่ายและได้ผล 100% คือ การเผชิญหน้ากับมันเป็นเวลา 14 วัน!!


ถ้าคุณใฝ่ฝันที่จะทำงานอิสระ (เป็นฟรีแลนซ์) มาตลอด แต่ยังไม่ได้ทำเพราะความกลัว คุณสามารถเอาชนะความกลัวได้ด้วยวิธีนี้


1. คุณลองจินตนาการถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่จะเกิดกับคุณได้ จากเดิมที่เคยมีรายได้เยอะๆ อาจจะเหลือแค่วันละ 300 บาท ตายแล้ว!!! แล้วจะใช้ชีวิตยังไงล่ะเนี่ยะ??


2. หาทางออกให้เหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุด เอาวะ!! วันละ 300 บาท งั้นก็ต้องไม่กินข้าวนอกบ้านเลย งดกาแฟแบรนด์ งดคาเฟ่หรูๆ ใส่เสื้อผ้าที่มีอยู่ไปก่อน งดชอปปิ้งในทุกกรณี จากเดิมที่เคยเรียก grab ช่วง 14 วันนี้ก็ต้องหัดขึ้นรถเมล์ไปก่อน แบบนี้น่าจะพออยู่ได้


3. หาความสุขให้ได้เท่าเดิม ในจำนวนเงินที่ลดลง ถามตัวเองว่ายังมีอะไรที่ทำให้เรามีความสุขได้อีกบ้าง เช่น วาดรูป ออกกำลังกาย ถ่ายรูป ร้องเพลง เขียนหนังสือ อ่านหนังสือฟรี (ที่ร้าน) ดูซีรีย์ฟรีทาง youtube หรือทำงานอาสาสมัคร


4. ลองทำตามแผนการณ์เอาตัวรอดในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดติดกันเป็นเวลา 14 วัน





แล้วคุณจะพบว่า จริงๆ แล้วสิ่งที่เรากลัว มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรเลยนี่นา เลวร้ายที่สุดก็แค่นี้เองเหรอ?? และคุณจะพบกับอิสระในการเป็นตัวเอง ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการจริงๆ 


และที่สำคัญ คือ เมื่อคุณกล้าเผชิญกับสิ่งที่คุณกลัวจริงๆ 99% ของคนที่ใช้เทคนิคนี้จะพบว่า ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดที่เราเตรียมใจไว้ด้วยซ้ำ 


รู้แบบนี้แล้วคุณจะยังกลัวอยู่มั้ยคะ???



🤗🤗🤗🤗🤗


เกี่ยวกับเรา


Tara Thow อ่านว่า ทาร่า โถว เป็นมนุษย์แม่ลูกสองอยู่ที่ซิดนีย์ สนใจศาสตร์พัฒนาตัวเอง ธุรกิจ ปรัชญา ครอบครัว รักเสียงเพลง และซีรีย์วาย


#ฟรีความรัก101จุดเริ่มต้นของความรักในฝัน

#โค้ชชิ่งด้วยNLP


#หนังสือเปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ


#สอนภาษาไทยให้เด็กๆที่เกิดต่างประเทศ


#อบรมครูสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ


💞 💞💞💞💞


ช่องทางในการติดตามเราจ้าา.. 😘


Facebook: pagetarathow


IG: tarathow


Youtube: Tara Thow


Blockdit 2: tarathow1


Twitter: @tarathow


Blogspot: tarathow.blogspot.com


Tiktok: @tarathow


Line: @tarathow



14 มีนาคม 2566

เมื่อไม่เข้าใจความรัก รักก็เลยหล่นหายไป

 เราแต่งงานมา 14 ปีแล้วค่ะ แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่า ภายใต้ชีวิตคู่ที่ดูน่าอิจฉา สามีที่แสนดี แต่จริงๆ แล้วชีวิตคู่ของเรามันพังลงตั้งแต่ 3 ปีแรกเลยด้วยซ้ำ และที่น่าแปลก คือ มันพังลงโดยที่เราทั้งคู่ไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ

เราสองคนมีไลฟ์สไตล์ที่ต่างกันค่ะ เค้าเป็นคนสมถะ ติดดิน มีความสุขกับชีวิตเรียบง่าย แค่ได้นั่งอยู่บ้านเฉยๆ ก็มีความสุข ชีวิตนี้ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว ส่วนเราน่ะเหรอ เราเป็นมนุษย์ทะเยอะทะยานค่ะ เราอยากได้ อยากมี อยากเป็น เราชอบกินหรู อยู่สบาย ความสุขผูกติดกับคำว่าเป้าหมายและความสำเร็จ


ตอนนั้นเราก็คิดว่ามันคือการให้เกียรติกัน เธอชอบอยู่บ้าน ชอบความสมถะ เธอก็อยู่ในโลกของเธอไปละกัน ส่วนชั้นชอบความฟุ้งเฟ้อ ชั้นก็จะออกไปไขว้คว้าความสำเร็จในโลกของชั้น 


ไม่มีใครห้ามใคร ต่างคนต่างมีชีวิตเป็นของตัวเอง จนรู้ตัวอีกที พื้นที่ตรงกลางที่เคยเป็นของ “เรา” มันก็หายไป เราไม่ได้ทะเลาะกันนะ หรือถ้าจะพูดให้ถูก เราไม่มีแม้แต่เรื่องที่จะทะเลาะกัน ความสัมพันธ์ของเรามีแต่ “เธอ” กับ “ชั้น” อะไรที่เป็นเรื่องของเธอ ชั้นก็จะไม่ยุ่ง อะไรที่เป็นเรื่องของชั้น เค้าก็ไม่เคยคิดที่จะใส่ใจ




ในขณะที่เพื่อนๆ มองว่าสามีเธอดีจัง ตามใจทุกอย่าง ไม่เคยห้ามอะไรเลย แต่งงานมีลูกแล้วก็มียังอิสระในการใช้ชีวิต จะไปไหนก็ไม่เคยโทรตาม จะกลับดึกแค่ไหนก็ไม่เคยโดนบ่น นี่มันสามีแห่งชาติชัดๆ 


จะมีก็แต่คนที่เข้าใจ "ความรัก" เท่านั้นละมั้งที่ดูออก นั่นก็คือ แม่สามีเราเอง


วันนั้นหม่าม้าเรียกไปคุยแล้วบอกว่า นี่ไม่ใช่ครอบครัว!! ความสัมพันธ์ของพวกเธอตอนนี้มันไม่เหมือนคนรักกัน แล้วอย่าอ้างว่าเป็นเรื่องปกติของคู่ที่คบกันนานๆ หม่าม้าแต่งงานมา 40 ปีแล้วยังไม่ห่างเหินกันเท่าพวกเธอเลย แล้วหม่าม้าก็ยื่นคำสั่งแบบสายฟ้าฟาดมาว่า… ถ้าพวกเธอไม่สามารถกลับไปรักกันแบบเดิมได้ หม่าม้าแนะนำให้พวกเธอเลิกกันเถอะ มันจะดีกับเธอทั้งคู่แล้วก็ลูกของเธอด้วย (ตึง!!!)


เอ่อ… พวกเราไม่มีอะไรจะเถียงหม่าม้า เพราะที่หม่าม้าพูดมานั้นเป็นความจริงทุกอย่าง คำชื่นชม เสียงอิจฉาจากเพื่อนๆ ไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว เพราะมันไม่ใช่ความจริง ความจริงก็คือ ชีวิตคู่เราพังไปตั้งนานแล้ว ที่คบกันอยู่นี่มันคืออะไรก็ไม่รู้ แต่ที่รู้คือมันไม่ใช่ชีวิตคู่แน่ๆ


หลังจากนั้นเราก็เริ่มกระบวนการเยียวยาความสัมพันธ์อย่างจริงจัง และพบว่าชุดความคิดที่ว่า ‘เมื่อไหร่ที่เรามองเห็นปัญหา เมื่อนั้นเราจะเริ่มมองเห็นทางออก’ นั้นจริงเสียยิ่งกว่าจริง 


เราเริ่มเห็นเวิร์กช็อปเกี่ยวกับความรัก คอร์สเกี่ยวกับความสัมพันธ์ หรือแม้กระทั่งหนังสือพัฒนาตัวเอง คอร์สพัฒนาตัวเองทั่วๆ ไป ก็ยังมีข้อคิดเล็กๆ น้อยๆ ให้เราเอามาปรับใช้กับความรักความสัมพันธ์ได้


เราได้ยามาหลายขนานมาก ค่อยๆ ปรับจาก A ไป B จาก B ไป C จาก C ไป D บางทีก็ย้อนกลับไป C หรือ B บ้าง ก็ความรักมันไม่ได้ง่ายนี่เนอะ ถ้าความรักง่าย สถิติหย่าร้างในปีล่าสุดคงไม่อยู่ที่ 43% หรอกจริงมั้ย??


แต่ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จก็อยู่ที่นั่น หลังจากที่เราใช้เวลาเรียนรู้ "ความรัก" อยู่นาน ในที่สุดเราก็เข้าใจมันซักที ในที่สุดเราก็กลับไปรักกันเหมือนวันแรกๆ ได้แล้ว แล้วเราก็รักกันอย่างนั้นมา 3 ปีแล้ว เย่!!


รักกันโดยที่พวกเราไม่ได้เปลี่ยนไลฟ์สไตล์ตัวเองด้วยนะ ทุกวันนี้เค้าก็ยังใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์อยู่ เราก็ยังทำงานเป็นบ้าเป็นหลังเหมือนเดิม แต่เรามีพื้นที่ตรงกลางให้คำว่า “เรา” มากขึ้น ไม่สิ โลกของ “เธอ” “ชั้น” แล้วก็ “เรา” มันกลายเป็นโลกใบเดียวกันไปแล้ว ความรักมันมหัศจรรย์อย่างนี้นี่เอง


สำหรับใครที่อยากเข้าใจความรักมากขึ้น เรามี mini-course สั้นๆ ฟรี!!! ชื่อ ความรัก 101: จุดเริ่มต้นของความรักความสัมพันธ์ในฝัน เป็นคอร์สสั้นๆ แค่ 40 นาที พูดถึงทฤษฎีความรักที่เราชอบที่สุด ที่เรารู้สึกว่าชีวิตคู่เราดีขึ้นตั้งแต่รู้เรื่องนี้ เราอยากแชร์เรื่องนี้กับทุกคนจริงๆ นะ ใครสนใจทักไลน์ @tarathow มาได้เลยค่ะ


แล้วเจอกันนะคะ


🤗🤗🤗🤗🤗


เกี่ยวกับเรา


Tara Thow อ่านว่า ทาร่า โถว เป็นมนุษย์แม่ลูกสองอยู่ที่ซิดนีย์ สนใจศาสตร์พัฒนาตัวเอง ธุรกิจ ปรัชญา ครอบครัว รักเสียงเพลง และซีรีย์วาย


#ฟรีความรัก101จุดเริ่มต้นของความรักในฝัน

#โค้ชชิ่งด้วยNLP


#หนังสือเปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ


#สอนภาษาไทยให้เด็กๆที่เกิดต่างประเทศ


#อบรมครูสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ


💞 💞💞💞💞


ช่องทางในการติดตามเราจ้าา.. 😘


Facebook: pagetarathow


IG: tarathow


Youtube: Tara Thow


Blockdit 2: tarathow1


Twitter: @tarathow


Blogspot: tarathow.blogspot.com


Tiktok: @tarathow


Line: @tarathow


13 มีนาคม 2566

ตั้งเป้าหมายธุรกิจยังไงให้ไม่เจ๊งแน่นอน 100%

เรื่องราวของ เคลลี่ เชว (Kelly Choi) เศรษฐีนีสาวสวยที่ประสบความสำเร็จจากการทำธุรกิจด้วยตัวเอง เป็นเรื่องราวที่ทาร่าชอบมากๆ แล้วคิดว่าถ้าเพื่อนๆ ได้เรียนรู้ไปพร้อมๆ กับทาร่าจะต้องดีมากๆ แน่เลยค่ะ 

เธอเล่าว่า เป้าหมายในการทำธุรกิจที่ห้ามตั้งเด็ดขาด มี 1 ข้อเด็ดๆ คือ เราห้ามตั้งเป้าหมายว่า เราจะทำเพื่อตัวเราเอง เอ๊ะ!! ทำธุรกิจแล้วไม่ทำเพื่อตัวเอง แล้วจะทำเพื่อใครคะ เพื่อนๆ จะแย้งทาร่าแบบนี้ใช่ไหมคะ 


เธอบอกว่าห้ามตั้งเป้าหมายว่าเพื่อตัวเราเอง แต่ให้ใช้คำว่า “เรา” ซึ่งหมายรวมถึงเราที่เป็นส่วนหนึ่งกับธุรกิจ เช่น (เธอมีกิจการซูชิ) เธอก็จะคิดว่าทำยังไงดีให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับร้านซูชิของเธอเติบโตไปด้วยกัน ทั้ง สวัสดิการที่ดีของพนักงาน ลูกค้าที่ประทับใจกับรสชาติอร่อยๆ ของซูชิ รวมถึงทำยังไงให้ลูกค้ารู้สึกว่าซูชิของร้านเรา สด มีคุณภาพ คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป 



ทุกวันนี้ร้าน Sushi Daily ที่เธอก่อตั้งมีสาขามากกว่า 198 สาขาทั่วเกาะอังกฤษ ตั้งมั่นว่าจะขายซูชิแฮนด์เมดที่มีคุณภาพดีที่สุด ที่สำคัญร้านเธอเป็นแหล่งรวมของช่างปั้นซูชิที่มีทักษะสูง เหล่าช่างปั้นซูชิอยากเข้าไปทำงานในร้านเธอ เพราะพวกเขาสามารถใส่ความคิดสร้างสรรค์ไปในซูชิได้ ทุกวันนี้จึงมีเมนูซูชิมากกว่า 100 รายการ จนกลายเป็นอีกหนึ่งร้านซูชิชื่อดังระดับโลกเลยล่ะค่ะ 


นี่คือผลลัพท์จากการทำงานหนักที่ไม่ได้มีคำว่าเรา (ซึ่งหมายถึงตัวเราคนเดียว) แต่คือ “เรา” ที่หมายถึงทุกคนที่เกี่ยวข้องกับองค์กรของเธอค่ะ เห็นแบบนี้แล้วทาร่าก็ขอนำเทคนิคไปใช้กับธุรกิจหน่อยนะคะ คุณเคลลี่


อ้างอิง https://sushidaily.com/gb-en/our-story/



🤗🤗🤗🤗🤗


เกี่ยวกับเรา


Tara Thow อ่านว่า ทาร่า โถว เป็นมนุษย์แม่ลูกสองอยู่ที่ซิดนีย์ สนใจศาสตร์พัฒนาตัวเอง ธุรกิจ ปรัชญา ครอบครัว รักเสียงเพลง และซีรีย์วาย


#ฟรีความรัก101จุดเริ่มต้นของความรักในฝัน

#โค้ชชิ่งด้วยNLP


#หนังสือเปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ


#สอนภาษาไทยให้เด็กๆที่เกิดต่างประเทศ


#อบรมครูสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ


💞 💞💞💞💞


ช่องทางในการติดตามเราจ้าา.. 😘


Facebook: pagetarathow


IG: tarathow


Youtube: Tara Thow


Blockdit 2: tarathow1


Twitter: @tarathow


Blogspot: tarathow.blogspot.com


Tiktok: @tarathow


Line: @tarathow


12 มีนาคม 2566

นิยามของคำว่า "รวย" ที่คนส่วนใหญ่เข้าใจผิด

 นิยามของคำว่า "รวย" ที่คนส่วนใหญ่เข้าใจผิด 


โพสต์ที่แล้วทาร่า นำเสนอเรื่องราวของ เคลลี่ เชว (kelly choi) เศรษฐีนีสาวสวยที่มาแชร์เทคนิคการเลี้ยงลูกแบบเศรษฐีนีไปแล้ว โพสต์นี้ทาร่ามาแชร์เรื่องที่เธอเล่าอีกเรื่อง แล้วทาร่าประทับใจมากๆ นั่นคือ นิยาม “ความรวย” ของเธอค่ะ 


หลายคนคิดว่าความ “รวย” คือการที่คุณมีเงิน ทอง ทรัพย์สินมากมาย แต่เธอบอกว่า เราไม่สามารถเรียกตัวเองว่าคนรวยได้ถ้าเรามีแค่ เงิน คุณจะคู่ควรกับความรวยได้ก็ต่อเมื่อชีวิตของคุณ มีความเพียบพร้อมสมบูรณ์แบบในทุกๆ มิติ 




นิยามของคือเราต้องสมบูรณ์ใน 10 มิติ


1. สถานะการเงินของตัวเอง

2. การงานที่เติมเต็มให้กับสังคม และเราได้ใช้ศักยภาพของตัวเองอย่างเต็มที่ 

3. สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง

4. ชีวิตที่น่าสนใจ สนุกสนาน

5. ความรักที่ดี ครอบครัวอบอุ่น

6. เพื่อนที่อบอุ่น พร้อมจะสนับสนุนกันและกัน

7. การตอบแทนสังคม ได้บริจาคช่วยเหลือผู้ขาดแคลน

8. พัฒนาตัวเองตลอดเวลา

9. จิตใจเราสงบ มีเป้าหมายในการใช้ชีวิต

10. มีความสุขทุกวัน


เธอมีรูปภาพประกอบในนิยามความสำเร็จด้วยค่ะ





อ่านถึงตรงนี้แล้วเพื่อนๆ คิดยังไงกันบ้างคะ ให้คะแนนตัวเองในแต่ละด้านกี่คะแนน?? แล้วอยากพัฒนาด้านไหนเป็นพิเศษรึเปล่า?? คอมเม้นต์ด้านล่าง แล้วเรามาพัฒนาทุกๆ ด้านไปพร้อมกันนะคะ 



🤗🤗🤗🤗🤗


เกี่ยวกับเรา


Tara Thow อ่านว่า ทาร่า โถว เป็นมนุษย์แม่ลูกสองอยู่ที่ซิดนีย์ สนใจศาสตร์พัฒนาตัวเอง ธุรกิจ ปรัชญา ครอบครัว รักเสียงเพลง และซีรีย์วาย


#ฟรีความรัก101จุดเริ่มต้นของความรักในฝัน

#โค้ชชิ่งด้วยNLP


#หนังสือเปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ


#สอนภาษาไทยให้เด็กๆที่เกิดต่างประเทศ


#อบรมครูสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ


💞 💞💞💞💞


ช่องทางในการติดตามเราจ้าา.. 😘


Facebook: pagetarathow


IG: tarathow


Youtube: Tara Thow


Blockdit 2: tarathow1


Twitter: @tarathow


Blogspot: tarathow.blogspot.com


Tiktok: @tarathow


Line: @tarathow




11 มีนาคม 2566

ตั้งราคายังไงให้ขายดี เหมือนแจกฟรี

เพื่อนๆ คนไหนที่ทำธุรกิจออนไลน์แล้วอยู่ในสงครามฟาดฟันเรื่องราคากันบ้างคะ เรียกได้ว่าธุรกิจทุกตัว สินค้า และ บริการทุกตัวตอนนี้อยู่ในโลกออนไลน์หมดแล้ว 


ทาร่าเมาท์มอยกับเพื่อนฝูงก็พบว่า หลายคนก็สั่งสินค้าออนไลน์เป็นประจำ แต่บางคนก็ยังชอบที่จะเดินไปช้อปปิ้งในซุปเปอร์มาร์เก็ต ชอบหยิบจับ มีความสุขกับการได้เลือกสินค้าด้วยตัวเองเหมือนเดิมค่ะ 


แต่ไม่ว่ายังไงก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าโควิด 19 ทำเอาผู้บริโภคทั่วโลกต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อกันยกใหญ่ แม่ค้า พ่อค้า โรงงานก็หันมาขายของออนไลน์กันหมด แล้วจะทำยังไงให้ลูกค้ามาซื้อของจากร้านเรากันคะ วันนี้ทาร่ามีเทคนิคการตั้งราคา ที่รับรองว่าใช้ได้กับทุกสินค้าและบริการค่ะ 


1 เทคนิคลับ มาจาก Benjamin J Harvey ปรมาจารย์โค้ชชื่อดังของออสเตรเลียค่ะ 




เขาบอกว่า เวลาตั้งราคาสินค้ามีข้อระวังคือ อย่าไปตั้งราคาแพงๆ เพราะถ้าสินค้าที่ (ดูเหมือน) ราคาแพง ลูกค้าจะคิดเยอะ เปรียบเทียบข้อมูลสารพัด ทำให้กระบวนการตัดสินใจช้าลง


แต่เราก็ไม่ควรตั้งราคาให้ (ดูเหมือน) ถูกจนเกินไป เพราะลูกค้าก็จะคิดหนักเหมือนกัน เพราะถ้ามันถูกเกินไป สมองส่วนตรรกะก็จะถูกสะกิดว่า มันต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ นี่อาจจะเป็นสแปม หรือเป็นสินค้าไม่ดีก็ได้


การตั้งราคาที่ดี ควรตั้งในช่วง gap ที่ลูกค้ารู้สึกว่า “คุ้ม” หรือจัดว่าถูกเมื่อเทียบกับคุณภาพของสินค้าหรือบริการนั้นๆ โดย Benjamin เค้าได้ยกตัวอย่างไว้ คือ เสื้อผ้าลดราคาที่มันสวยแหละ แต่เราจะได้ใส่เมื่อไหร่ หรือใส่ไปไหนก็ไม่รู้ แต่พอราคามันถูก มีระยะเวลาหรือจำนวนจำกัด มันก็จะกดดันให้เราต้องซื้อไปก่อน เดี๋ยวค่อยไปหาโอกาสใส่เอาทีหลัง (หรือจะไม่ได้ใส่เลยก็ไม่เป็นไรหรอก แค่ซื้อมาก็รู้สึกคุ้มแล้ว)


เป็นยังไงบ้างคะ เทคนิคการตั้งราคาแบบนี้ เพื่อนๆ คิดว่ายังไงคะ - ซื้อ หรือ ไม่ซื้อ?? มาแชร์ความเห็นกันได้นะคะ



🤗🤗🤗🤗🤗


เกี่ยวกับเรา


Tara Thow อ่านว่า ทาร่า โถว เป็นมนุษย์แม่ลูกสองอยู่ที่ซิดนีย์ สนใจศาสตร์พัฒนาตัวเอง ธุรกิจ ปรัชญา ครอบครัว รักเสียงเพลง และซีรีย์วาย


#ฟรีความรัก101จุดเริ่มต้นของความรักในฝัน

#โค้ชชิ่งด้วยNLP


#หนังสือเปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ


#สอนภาษาไทยให้เด็กๆที่เกิดต่างประเทศ


#อบรมครูสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ


💞 💞💞💞💞


ช่องทางในการติดตามเราจ้าา.. 😘


Facebook: pagetarathow


IG: tarathow


Youtube: Tara Thow


Blockdit 2: tarathow1


Twitter: @tarathow


Blogspot: tarathow.blogspot.com


Tiktok: @tarathow


Line: @tarathow


10 มีนาคม 2566

เศรษฐีนีอันดับต้นๆ ของอังกฤษ เลี้ยงลูกเล็กยังไง

 เคลลี่ เชว (Kelly Choi) เธอสวย รวย เก่ง เป็นลูกครึ่งอเมริกัน-เกาหลี เธอไม่ได้เกิดมาจากกองเงินกองทอง แต่เธอใช้ความสามารถตัวเองจนทำให้ตัวเองร่ำรวยได้ ไม่ใช่ร่ำรวยธรรมดา เธอมีเงินจนเราเรียกเธอว่า เศรษฐีนี ได้เลยค่ะ 

ว่ากันว่าปี 2020 ทรัพย์สินของเธอ มีมูลค่ามากกว่า นักฟุตบอลชื่อก้องโลก อย่าง เดวิด แบคแฮม ซะอีก ใครที่อยากติดตามชีวิตเธอเพิ่มเติม ลองอ่านหนังสือเล่มนี้ได้ค่ะ Wealthinking รวยมาตั้งแต่จิตใต้สำนึก เธอเขียนได้ดีมากๆ 


สิ่งหนึ่งที่ทาร่าชื่นชมเธอมากๆ ในฐานะคนเป็นแม่ด้วยกัน นั่นคือ การเลี้ยงดูลูกค่ะ เคลลี่เล่าให้ฟังในบทสัมภาษณ์ว่า อุปสรรคอย่างหนึ่งที่ผู้หญิงไม่สามารถก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ได้เท่ากับผู้ชาย เป็นเศรษฐีมีเงินหมื่นๆ ล้านได้ เพราะผู้หญิงมีช่วงเบรคจากการเลี้ยงลูก 


เทคนิคที่เธอใช้สำหรับการเลี้ยงลูกเล็กๆ สำหรับคุณแม่ที่อยากประสบความสำเร็จในหน้าที่การทำงานไปด้วย มีแค่ 1 ข้อคือ ‘ใช้เวลากับลูกๆ แบบมีคุณภาพที่สุด’




เธอเล่าว่า พอทำงานไปจนถึงอายุ 30 บางคนสามารถขึ้นไปถึงตำแหน่งผู้จัดการระดับกลาง เป็นหัวหน้าในสายงานนั้น แต่เรามักจะต้องแต่งงาน มีครอบครัว ผู้หญิงบางส่วนต้องออกไปเลี้ยงลูก บางคนพักเลี้ยงลูกจนลูกโตพอจะเข้าโรงเรียนอนุบาล ซึ่งนั่นหมายความว่าลูกๆ ต้องอายุ 4-5 ปี นั่นแหละคือช่วงเวลาที่ผู้หญิงอย่างพวกเราสูญเสียเวลา สำหรับการทำงานไป 


เธอเล่าว่า ตอนที่เธอคลอดลูกเสร็จ เธอพักเบรกสั้นมากๆ และส่งลูกไป child care ตั้งแต่เด็กๆ เธอมองว่าการส่งเด็กเล็กๆ ไป child care ทำให้พวกเด็กๆ ได้ออกไปเติบโตในโลกของพวกเขา ส่วนแม่อย่างเธอก็ยังได้เติบโตในหน้าที่การงาน แบบไม่มีสะดุด


แต่สองสิ่งที่เธอให้ความสำคัญมากๆ คือ หนึ่ง เธอเลือก child care ที่มีคุณภาพและมั่นใจว่าลูกของเธอจะมีเวลาที่ดีถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่กับเธอก็ตาม และ สอง ช่วงเวลาที่ลูกกลับมาจาก child care และเธอกลับมาจากการทำงาน คือช่วงเวลาคุณภาพที่เธอและลูกได้พบเจอกัน เธอจะใช้ช่วงเวลานี้เอาใจใส่ลูกของเธอ ส่วนวันเสาร์ อาทิตย์ เธอจะไม่หอบงานกลับมาทำที่บ้าน เธอจะทำหน้าที่แม่เต็มตัว พาลูกไปเที่ยว สอนให้ลูกทำนู้นทำนี่เป็น หากิจกรรมทำด้วยกัน เป็นช่วงเวลาแม่และลูกที่แท้จริง


เธอใช้เทคนิคนี้จนตอนนี้ลูกของเธอโตมาเป็นเด็กที่มีคุณภาพ มีสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ่นกับครอบครัว และที่สำคัญเธอก็สนิทกับลูกๆ ของเธอมาก 


สำหรับคุณแม่ที่มีลูกเล็กและอยูในสถานการณ์ที่ต้องเลือกระหว่างงานกับลูก ลองเอาแนวคิดของ Kelly Choi ไปปรับใช้ได้นะคะ


🤗🤗🤗🤗🤗


เกี่ยวกับเรา


Tara Thow อ่านว่า ทาร่า โถว เป็นมนุษย์แม่ลูกสองอยู่ที่ซิดนีย์ สนใจศาสตร์พัฒนาตัวเอง ธุรกิจ ปรัชญา ครอบครัว รักเสียงเพลง และซีรีย์วาย


#ฟรีความรัก101จุดเริ่มต้นของความรักในฝัน

#โค้ชชิ่งด้วยNLP


#หนังสือเปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ


#สอนภาษาไทยให้เด็กๆที่เกิดต่างประเทศ


#อบรมครูสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ


💞 💞💞💞💞


ช่องทางในการติดตามเราจ้าา.. 😘


Facebook: pagetarathow


IG: tarathow


Youtube: Tara Thow


Blockdit 2: จุด by Tara Thow


Twitter: @tarathow


Blogspot: tarathow.blogspot.com


Tiktok: @tarathow


Line: @tarathow



09 มีนาคม 2566

รู้จัก เข้าใจ และรักใครซักคน


ใครบ้างไม่อยากเจอความรักดีๆ ใครบ้างไม่อยากมีชีวิตคู่ที่หวานชื่นเหมือนหลุดออกมาจากในนิยาย แต่น่าเสียดายที่ในชีวิตจริง ความรักมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ขนาดคู่รักที่ประคองกันไปจนถึงวันแต่งงานได้สำเร็จ สถิติการหย่าก็ยังสูงถึง 43% (กรุงเทพ - ข้อมูลปี 2564)


นี่ยังไม่รวมสถิติของคู่รักที่ไม่รักแต่ไม่เลิกนะ !!!


เพราะฉะนั้น ถ้าคู่ไหนที่รักๆ เลิกๆ เดี๋ยวก็รักกัน เดี๋ยวก็ตีกัน.. สถิติบอกว่าคุณไม่ใช่คู่เดียวที่เจอปัญหานี้ และทาร่าบอกได้อีกอย่างนึงว่า ปัญหานี้จะไม่หายไปเอง ถ้าคุณไม่ได้ทำอะไรกับมัน


ทาร่าเองก็เคยอยู่ในความสัมพันธ์แบบที่ไม่รักแต่ไม่เลิก (กลัวเลิกแล้วลำบากกว่าเดิม) ไม่สุขไม่เป็นไร แต่อยู่กับคนนี้ อย่างน้อยก็ไม่ทุกข์ไปกว่านี้แน่ๆ



แต่ทาร่าชอบ personal development อยู่แล้ว ก็เรียนมาเยอะ อ่านหนังสือมาเยอะ - ใช้ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ทาร่าใช้เวลา 7 ปีกว่าจะต่อจิ๊กซอว์ความรักของคู่ตัวเองได้ลงตัว ตอนนี้เรากลับคลั่งรักกันเหมือนตอนจีบกันแรกๆ แล้ว อิอิ


สำหรับใครที่ยังอยู่ในความสัมพันธ์กลางๆ หรืออยากพัฒนาความสัมพันธ์ของตัวเอง อยากเข้าใจความรักมากขึ้น - แบบมีทฤษฎีอ้างอิง ไม่ได้เล่าจากประสบการณ์ ทาร่ามี FREE!! mini-course ความรัก 101: จุดเริ่มต้นของความรักความสัมพันธ์ในฝัน ฟรี!! ใครสนใจทักไลน์ @tarathow มาได้เลยค่ะ


แล้วเจอกันนะคะ


🤗🤗🤗🤗🤗


เกี่ยวกับเรา


Tara Thow อ่านว่า ทาร่า โถว เป็นมนุษย์แม่ลูกสองอยู่ที่ซิดนีย์ สนใจศาสตร์พัฒนาตัวเอง ธุรกิจ ปรัชญา ครอบครัว รักเสียงเพลง และซีรีย์วาย


#ฟรีความรัก101จุดเริ่มต้นของความรักในฝัน

#โค้ชชิ่งด้วยNLP


#หนังสือเปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ


#สอนภาษาไทยให้เด็กๆที่เกิดต่างประเทศ


#อบรมครูสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ


💞 💞💞💞💞


ช่องทางในการติดตามเราจ้าา.. 😘


Facebook: pagetarathow


IG: tarathow


Youtube: Tara Thow


Blockdit 2: จุด by Tara Thow


Twitter: @tarathow


Blogspot: tarathow.blogspot.com


Tiktok: @tarathow


Line: @tarathow