14 มีนาคม 2566

เมื่อไม่เข้าใจความรัก รักก็เลยหล่นหายไป

 เราแต่งงานมา 14 ปีแล้วค่ะ แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่า ภายใต้ชีวิตคู่ที่ดูน่าอิจฉา สามีที่แสนดี แต่จริงๆ แล้วชีวิตคู่ของเรามันพังลงตั้งแต่ 3 ปีแรกเลยด้วยซ้ำ และที่น่าแปลก คือ มันพังลงโดยที่เราทั้งคู่ไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ

เราสองคนมีไลฟ์สไตล์ที่ต่างกันค่ะ เค้าเป็นคนสมถะ ติดดิน มีความสุขกับชีวิตเรียบง่าย แค่ได้นั่งอยู่บ้านเฉยๆ ก็มีความสุข ชีวิตนี้ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว ส่วนเราน่ะเหรอ เราเป็นมนุษย์ทะเยอะทะยานค่ะ เราอยากได้ อยากมี อยากเป็น เราชอบกินหรู อยู่สบาย ความสุขผูกติดกับคำว่าเป้าหมายและความสำเร็จ


ตอนนั้นเราก็คิดว่ามันคือการให้เกียรติกัน เธอชอบอยู่บ้าน ชอบความสมถะ เธอก็อยู่ในโลกของเธอไปละกัน ส่วนชั้นชอบความฟุ้งเฟ้อ ชั้นก็จะออกไปไขว้คว้าความสำเร็จในโลกของชั้น 


ไม่มีใครห้ามใคร ต่างคนต่างมีชีวิตเป็นของตัวเอง จนรู้ตัวอีกที พื้นที่ตรงกลางที่เคยเป็นของ “เรา” มันก็หายไป เราไม่ได้ทะเลาะกันนะ หรือถ้าจะพูดให้ถูก เราไม่มีแม้แต่เรื่องที่จะทะเลาะกัน ความสัมพันธ์ของเรามีแต่ “เธอ” กับ “ชั้น” อะไรที่เป็นเรื่องของเธอ ชั้นก็จะไม่ยุ่ง อะไรที่เป็นเรื่องของชั้น เค้าก็ไม่เคยคิดที่จะใส่ใจ




ในขณะที่เพื่อนๆ มองว่าสามีเธอดีจัง ตามใจทุกอย่าง ไม่เคยห้ามอะไรเลย แต่งงานมีลูกแล้วก็มียังอิสระในการใช้ชีวิต จะไปไหนก็ไม่เคยโทรตาม จะกลับดึกแค่ไหนก็ไม่เคยโดนบ่น นี่มันสามีแห่งชาติชัดๆ 


จะมีก็แต่คนที่เข้าใจ "ความรัก" เท่านั้นละมั้งที่ดูออก นั่นก็คือ แม่สามีเราเอง


วันนั้นหม่าม้าเรียกไปคุยแล้วบอกว่า นี่ไม่ใช่ครอบครัว!! ความสัมพันธ์ของพวกเธอตอนนี้มันไม่เหมือนคนรักกัน แล้วอย่าอ้างว่าเป็นเรื่องปกติของคู่ที่คบกันนานๆ หม่าม้าแต่งงานมา 40 ปีแล้วยังไม่ห่างเหินกันเท่าพวกเธอเลย แล้วหม่าม้าก็ยื่นคำสั่งแบบสายฟ้าฟาดมาว่า… ถ้าพวกเธอไม่สามารถกลับไปรักกันแบบเดิมได้ หม่าม้าแนะนำให้พวกเธอเลิกกันเถอะ มันจะดีกับเธอทั้งคู่แล้วก็ลูกของเธอด้วย (ตึง!!!)


เอ่อ… พวกเราไม่มีอะไรจะเถียงหม่าม้า เพราะที่หม่าม้าพูดมานั้นเป็นความจริงทุกอย่าง คำชื่นชม เสียงอิจฉาจากเพื่อนๆ ไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว เพราะมันไม่ใช่ความจริง ความจริงก็คือ ชีวิตคู่เราพังไปตั้งนานแล้ว ที่คบกันอยู่นี่มันคืออะไรก็ไม่รู้ แต่ที่รู้คือมันไม่ใช่ชีวิตคู่แน่ๆ


หลังจากนั้นเราก็เริ่มกระบวนการเยียวยาความสัมพันธ์อย่างจริงจัง และพบว่าชุดความคิดที่ว่า ‘เมื่อไหร่ที่เรามองเห็นปัญหา เมื่อนั้นเราจะเริ่มมองเห็นทางออก’ นั้นจริงเสียยิ่งกว่าจริง 


เราเริ่มเห็นเวิร์กช็อปเกี่ยวกับความรัก คอร์สเกี่ยวกับความสัมพันธ์ หรือแม้กระทั่งหนังสือพัฒนาตัวเอง คอร์สพัฒนาตัวเองทั่วๆ ไป ก็ยังมีข้อคิดเล็กๆ น้อยๆ ให้เราเอามาปรับใช้กับความรักความสัมพันธ์ได้


เราได้ยามาหลายขนานมาก ค่อยๆ ปรับจาก A ไป B จาก B ไป C จาก C ไป D บางทีก็ย้อนกลับไป C หรือ B บ้าง ก็ความรักมันไม่ได้ง่ายนี่เนอะ ถ้าความรักง่าย สถิติหย่าร้างในปีล่าสุดคงไม่อยู่ที่ 43% หรอกจริงมั้ย??


แต่ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จก็อยู่ที่นั่น หลังจากที่เราใช้เวลาเรียนรู้ "ความรัก" อยู่นาน ในที่สุดเราก็เข้าใจมันซักที ในที่สุดเราก็กลับไปรักกันเหมือนวันแรกๆ ได้แล้ว แล้วเราก็รักกันอย่างนั้นมา 3 ปีแล้ว เย่!!


รักกันโดยที่พวกเราไม่ได้เปลี่ยนไลฟ์สไตล์ตัวเองด้วยนะ ทุกวันนี้เค้าก็ยังใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์อยู่ เราก็ยังทำงานเป็นบ้าเป็นหลังเหมือนเดิม แต่เรามีพื้นที่ตรงกลางให้คำว่า “เรา” มากขึ้น ไม่สิ โลกของ “เธอ” “ชั้น” แล้วก็ “เรา” มันกลายเป็นโลกใบเดียวกันไปแล้ว ความรักมันมหัศจรรย์อย่างนี้นี่เอง


สำหรับใครที่อยากเข้าใจความรักมากขึ้น เรามี mini-course สั้นๆ ฟรี!!! ชื่อ ความรัก 101: จุดเริ่มต้นของความรักความสัมพันธ์ในฝัน เป็นคอร์สสั้นๆ แค่ 40 นาที พูดถึงทฤษฎีความรักที่เราชอบที่สุด ที่เรารู้สึกว่าชีวิตคู่เราดีขึ้นตั้งแต่รู้เรื่องนี้ เราอยากแชร์เรื่องนี้กับทุกคนจริงๆ นะ ใครสนใจทักไลน์ @tarathow มาได้เลยค่ะ


แล้วเจอกันนะคะ


🤗🤗🤗🤗🤗


เกี่ยวกับเรา


Tara Thow อ่านว่า ทาร่า โถว เป็นมนุษย์แม่ลูกสองอยู่ที่ซิดนีย์ สนใจศาสตร์พัฒนาตัวเอง ธุรกิจ ปรัชญา ครอบครัว รักเสียงเพลง และซีรีย์วาย


#ฟรีความรัก101จุดเริ่มต้นของความรักในฝัน

#โค้ชชิ่งด้วยNLP


#หนังสือเปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ


#สอนภาษาไทยให้เด็กๆที่เกิดต่างประเทศ


#อบรมครูสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ


💞 💞💞💞💞


ช่องทางในการติดตามเราจ้าา.. 😘


Facebook: pagetarathow


IG: tarathow


Youtube: Tara Thow


Blockdit 2: tarathow1


Twitter: @tarathow


Blogspot: tarathow.blogspot.com


Tiktok: @tarathow


Line: @tarathow


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น