20 เมษายน 2565

คุณพ่อ คุณแม่ ต้องรู้!! ก่อนที่ลูก ๆ ของเราจะเข้าสู่วัยรุ่น


“Raising Boys” ของ Steve Biddulph เป็นหนังสือขายดีในหมวดแม่และเด็กที่ออสเตรเลียค่ะ 


Credit : Unsplash 


ทาร่าเคยอ่านตอนมีลูกชายคนโต และพอจะจับใจความได้ว่า… เด็กผู้ชายเค้าจะมีพัฒนาการตามวัยของเค้าที่พ่อแม่อย่างเราควรจะเข้าใจ คือ


0-6 ปี: เป็นลูกน้อยของแม่ เห็นแม่เป็นทุกอย่าง และอยากจะทำทุกอย่างให้แม่รักและสนใจ (ความสัมพันธ์กับแม่สำคัญมากๆ)


6-14 ปี: มีพ่อเป็นฮีโร่ แต่หลังจากนั้นเด็กผู้ชายจะเริ่มอยากเป็นเหมือนคุณพ่อ เลียนแบบคุณพ่อ (ความสัมพันธ์กับพ่อสำคัญมากๆ)


14+ ปี: อยากเป็นส่วนหนึ่งของสังคม เมื่อถึงวัยนี้แล้ว… ทั้งพ่อและแม่ (อาจจะ) ไม่ใช่บุคคลต้นแบบของลูกเราอีกแล้ว จากเบบี้ตัวน้อยของคุณแม่ กับเด็กชายตัวน้อยๆที่เคยชื่นชมคุณพ่อ… เมื่อเวลานี้มาถึง เค้าเริ่มมองหา “cool guy” ที่อยู่ข้างนอก ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียน คุณอาข้างบ้าน หรือคุณอาของตัวเอง หรือศิลปิน ดารา นักร้อง ยูทูปเบอร์ที่ตัวเองชื่นชอบ 


Credit. : Amazon 

เด็กผู้ชายจะชื่นชอบและเลียนแบบ “cool guy” ของพวกเค้าไปเรื่อยๆ จนกระทั่งได้พบกับ “true self” ของตัวเอง ผู้เขียนบอกไว้ว่า… มันเป็นกระบวนการที่สำคัญมากๆ ที่เด็ก ๆ เค้าจะต้องผ่านการเป็น “คนอื่น” มาก่อน เพื่อที่จะได้เรียนรู้ว่า…. เค้าไม่ใช่ลูกแม่ (เค้าไม่สามารถใช้ชีวิตเพื่อให้แม่มีความสุขได้ตลอดเวลา) และเค้าก็ไม่ใช่พ่อ (เค้าไม่สามารถเป็นเหมือนพ่อได้ไม่ว่าจะพยายามเลียนแบบแค่ไหนก็ตาม) และเค้าก็ไม่ใช่ “cool guy” คนไหนทั้งนั้น ทั้งไม่เคยเป็น ไม่ได้เป็น และจะไม่มีวันเป็นได้…. เค้าคือเค้า!! ไมเคิล (ลูกของทาร่า) ก็มีคนเดียวในโลกนี่แหละ 🤗


+++++


พอมีลูกสาว ทาร่า ก็เลยไปหาเล่มของลูกสาวมาอ่านบ้าง “Raising Girls in the 21st Century” ของนักเขียนคนเดียวกัน แต่เล่มนี้เค้าให้น้ำหนักไปที่ “คุณค่าในตัวเอง” มากกว่าเล่มของลูกชาย ด้วยความที่เด็กผู้หญิงในสังคมส่วนใหญ่จะถูกเลี้ยงดูมาให้อ่อนโยน เป็นเจ้าหญิง (ล่ะมั้ง) หนังสือเล่มนี้เลยให้น้ำหนักกับความเท่าเที่ยม ความแข่งแกร่ง และเห็นค่าในตัวเองมากๆ (ถ้าทาร่าจำไม่ผิดนะคะ อ่านมานานแล้ว อ่านหลายเล่มด้วย - ถ้าแฟน Steve Biddulph มาอ่านเจอว่าผิดตรงไหน ทักมาได้นะคะ 🙏)


Credit. : Amazon 


👊 เด็กผู้หญิงก็สามารถเป็นได้ทุกอย่างได้เหมือนผู้ชาย พวกเธอไม่จำเป็นต้องชอบสีชมพู ชอบเจ้าหญิง และชอบทำกับข้าว ถ้าพวกเธอจะชอบหุ่นยนต์ อยากไปดวงจันทร์ ก็จงเชื่อเถอะว่าพวกเธอจะทำได้ดีไม่แพ้ผู้ชายเลย


👊 วันนึงพวกเธอจะหลงรักผู้ชายซักคน และรู้สึกอยากทำทุกอย่างเพื่อให้ได้รับความรักจากเขา… อย่าทำแบบนั้น ขอให้พวกเธอเป็นตัวเองให้มากที่สุด และรู้ไว้ว่าผู้ชายในวัยเดียวกับเธอส่วนใหญ่จะยังไม่เห็นความสำคัญของ “รักแท้” พวกเขายังพยายามอยู่กับการที่จะเป็น cool guy เป็นที่ยอมรับของเพื่อนๆ และมีแฟนไว้เท่ห์ๆ เท่านั้นแหละ


👊 ในเรื่องอย่างว่า… ถ้าผู้ชายของเธอบอกว่า “ทนไม่ได้” หรือ “รอไม่ไหว” อย่าไปเชื่อ!!! มันเป็นข้ออ้างเท่านั้นแหละ จริงๆ แล้วเด็กผู้ชายทุกคน “ทนได้” และ “รอไหว” จงยินยอมก็ต่อเมื่อเธอรู้สึกพร้อมใจจริงๆ เมื่อมาถึงเรื่องอย่างว่า… จงฟังเสียงหัวใจตัวเองให้มากๆ อย่าทำไปเพราะเสียงเรียกร้องของเด็กผู้ชาย และหากพวกเขาขู่ว่าจะเลิก ก็จงปล่อยเขาไป… ผู้ชายแบบนั้นไม่คู่ควรกับความรักของเธอเลย


💗 ส่วนคุณแม่ที่มีลูกสาว… บทบาทของพวกเราสำคัญตั้งแต่เล็กจนโตเลยจ้าาา แม่คนเดียวจะได้เป็นทั้งแม่ เป็นทั้งบุคคลต้นแบบ และเป็นเพื่อนสาวของพวกเธอด้วยค่ะ 😘 (ใครที่มีทั้งลูกสาว ลูกชาย ไม่ต้องเอาสองคนไปเปรียบเทียบกันนะคะ)


แต่… แต่…. แม่ก็ต้องปรับบทบาทของตัวเองไปด้วยนะ จะทำตัวเป็นแม่ ประคบประหงมดั่งลูกน้อยหอยสังข์ไปตลอดก็ไม่ได้.. จะทำตัวเป็นบุคคลต้นแบบ สั่งสอนไปทุกเรื่อง และคาดหวังให้ลูกคิดเหมือนแม่ ทำเหมือนแม่ เป็นเหมือนแม่ ไปตลอดก็ไม่ได้…. เมื่อลูกเป็นวัยรุ่น เราก็ต้องกลายเป็นเพื่อนของพวกเธอค่ะ!!!


และทางที่ดี เราควรที่จะเริ่มกระบวนการ “เพื่อนสาว” 1-2 ปีก่อนที่พวกเธอจะกลายเป็นวัยรุ่นเต็มตัวค่ะ 



Credit. : Pixabay 

เล่มนี้เค้าแนะนำให้คุณแม่ๆ เริ่มตอนอายุ 9-11 ปีค่ะ ผ่านกิจกรรมที่เรียกว่า GTT (Girls Together Time) หรือแปลเป็นไทยว่า “ช่วงเวลาหญิง ๆ” ที่จะมีแค่แม่กับลูกสาวใช้เวลากระหนุงกระหนิงกันตามลำพังเท่านั้น… ไม่มีคุณพ่อ ไม่มีพี่ชาย น้องชาย (ถ้าบ้านไหนมีพี่สาว น้องสาว ก็ให้แยกพาไปทีละคน) และกำหนดไปเลยว่าทุกเดือน (หรือทุก 2 เดือน 3 เดือน) เราจะมี GTT กันนะ 


ช่วงเวลา GTT นี้ คุณแม่กับลูกสาวสามารถสลับกันเลือกได้ว่าจะทำอะไร หรือจะเริ่มต้นด้วยคำถาม “มีอะไรที่ลูกอยากทำกับแม่ แต่ยังไม่เคยทำมั้ยคะ” หรือ “มีอย่างนึงที่แม่อยากทำกับลูก แต่ยังไม่มีโอกาสเลย”


(เหอ เหอ พิมพ์มาถึงตรงนี้แล้วทาร่าก็คิดถึงเรื่องของตัวเองขึ้นมาได้ อาทิตย์ที่แต่งงานเลยจ้าา… จู่ ๆ แม่สามีก็พูดขึ้นมาว่า “ชั้นมีแต่ลูกชาย อยากมีลูกสาวมานานแล้ว อยากชวนไปแก้ผ้าอาบน้ำแล้วสลับกันถูหลัง” แล้วหันมามองหน้าลูกสะใภ้ป้ายแดงอย่างทาร่า เย้ยยย… คงไม่ต้องบอกนะคะว่าหลังจากนั้นเป็นไง 😂😂😂)


ถ้าเรื่องที่ลูกสาว หรือแม่อยากทำ มันจะแปลก ๆ ไปบ้างก็ตามนั้นนะคะ คิดซะว่าได้ใช้เวลาร่วมกันและเติมเต็มความฝันของกันและกัน 5555


มันสำคัญมากๆ ที่เราจะเริ่ม GTT และสร้างความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนตั้งแต่ 9-11 ขวบ เพราะเมื่อพวกเธอเริ่มเป็นวัยรุ่นเต็มตัว 13-15 ปี พวกเธอจะเริ่มอาย เริ่มมีความลับ เริ่มรู้สึกว่า… แม่ไม่เข้าใจหรอก!! แล้วพวกเธอจะหันไปปรึกษากันเอง ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว… ถึงแม้ว่าพวกเธอจะเข้าใจกันมากแค่ไหน แต่ก็ไม่มีใครในกลุ่มเพื่อน ๆ ของพวกเธอที่มีความรู้ ความเข้าใจโลก และประสบการณ์มากกว่ากันเลยซักคน


การที่เราเริ่ม GTT ล่วงหน้า 1-2 ปี เป็นการสร้างสายใยบางๆ ไว้ก่อนที่พวกเธอจะเป็นวัยรุ่น และไม่ว่าพวกเธอจะติดเพื่อนแค่ไหน มีความลับอะไร และมีอะไรเกิดขึ้นภายในจิตใจพวกเธอ… แต่เมื่อถึงเวลา GTT ทุกเดือน (2 เดือน หรือ 3 เดือน) ตามที่เราทำเป็นประจำมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว พวกเธอก็ต้องหลุดปากเล่าอะไรออกมาให้แม่ ๆ อย่างเราได้รับรู้บ้างล่ะน่า 


และถึงตอนนั้นแม่ ๆ อย่างเราก็ต้องไม่ลืมที่จะอัพเกรดสถานะตัวเองจากแม่ จากบุคคลต้นแบบ กลายมาเป็นเพื่อนสาวที่แสนเข้าใจพวกเธอด้วยนะคะ



🌈🌈🌈🌈🌈


เกี่ยวกับผู้เขียน


Tara Thow อ่านว่า ทาร่า โถว เป็นมนุษย์แม่ลูกสองอยู่ที่ซิดนีย์ สนใจศาสตร์พัฒนาตัวเอง ปรัชญา ธุรกิจ ครอบครัว รักเสียงเพลง ไวน์แดง และนิยาย


#คอร์สธุรกิจออนไลน์เริ่มง่ายไม่ต้องใช้เงินทุน

#หนังสือเปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ

#หนังสือไมเคิลเรียนไม่เก่งจนสอบตกป.3

#สอนภาษาไทยให้เด็กๆที่เกิดต่างประเทศ

#อบรมครูสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ

💞 💞💞💞💞


ช่องทางในการติดตามทาร่า 😘


Facebook: https://www.facebook.com/pagetarathow


IG: tarathow


Youtube: https://www.youtube.com/c/TaraThow


Blockdit 1: มนุษย์แม่ลูกสองจากเมืองซิดนีย์ By Tara Thow


Blockdit 2: จุด by Tara Thow


Blogspot: tarathow.blogspot.com


Tiktok: @tarathow


Line: @tarathow


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น