14 มกราคม 2565

โอกาสเงินง่าย เงินฟรี!! แต่ทำไมมีแต่คนเดินหนี

เงินง่าย เงินฟรี ทำไมมีแต่คนเดินหนี


ทาร่ามี Bucket List อยู่เรื่องนึงที่อยากทำมากๆ คือการแจกเงินค่ะ





ทำไมน่ะเหรอคะ?? เพราะทาร่าเคยอ่านหนังสื่อชื่อ Blink: The Power of Thinking Without Thinking ของ Malcolm Gladwell ที่เค้าเล่าไว้ว่าสาเหตุที่คนส่วนใหญ่อยากรวย แต่ยังไม่รวย เพราะเป็นเรื่องของ mindset ค่ะ


คนที่จนก็เพราะมี mindset แบบคนจน ต่อให้เอาเงินมากองให้ตรงหน้า คนพวกนั้นก็ยังจะมองข้ามแล้วก็พร่ำบ่นว่า “ฉันอยากรวย ฉันอยากรวย” ต่อไป


พวกเขาอยากรวยแต่ก็ปฎิเสธเงินโดยที่ไม่รู้ตัว และนี่ไม่ใช่เรื่องมโนหรือคำบรรยายที่เกิดมาจากความคิดเท่านั้น แต่เขายังสามารถแสดงผลลัพธ์ที่จับต้องได้ด้วยการทดลองแจกเงินค่ะ!!! ในการทดลองนี้ เขาได้เอาเงินไปวางบนโต๊ะไว้กองนึงพร้อมติดป้ายว่า “เงินฟรี หยิบเท่าไหร่ก็ได้” เชื่อมั้ยคะว่าไม่มีใครหยิบเลย


เขาถึงขนาดเอามันมาแจกให้กับมือ แต่ก็ยังไม่มีคนรับอีก


“คุณอยากได้เงินมั้ย”


”ไม่ล่ะ ขอบคุณมากนะ”


“คุณไม่อยากได้เงินเหรอ”


”ไม่ใช่วันนี้”


ว้อท!! ทุกคนอยากรวย ทุกคนทำงานเพื่อเงิน แต่เมื่อมีคนเอาเงินง่ายๆ เงินฟรีๆ มาให้ ทุกคนกลับปฎิเสธมัน หนังสือเล่มนี้ยังได้อธิบายถึงการทำงานของ mindset ไว้อีกเยอะแยะ แต่ทาร่าขอยังไม่เล่านะคะ ทาร่าแค่อยากเล่าว่า… ทาร่าเองก็เชื่อครึ่ง ไม่เชื่อครึ่ง เก็บความสงสัยนี้มานาน และอยากพิสูจน์ว่า ถ้าเราเอาเงินไปแจกฟรีจริงๆ คนส่วนใหญ่จะรับมั้ย??


คิดได้อย่างนั้นแล้วก็ชวนเพื่อนๆ 3 คนมาร่วมทำการทดลองที่ซิดนีย์แบบเดียวกับที่ Malcolm เล่าไว้เมื่อปี 2007 (ทาร่าอัดคลิปไว้ใน youtube เมื่อปี 2020) โดยการทดลองครั้งนี้ทาร่าเตรียมเงินมาทั้งหมด 1,000 เหรียญ (ประมาณ 24,000 บาท) พร้อมกับป้ายที่เขียนว่า YOUR FREE MONEY และมีตัวเองกับเพื่อนๆ ไปยืนแจกเงินอยู่ประมาณ 10 กว่านาที และเราก็ได้ข้อสรุปมาว่า…….


แจกเงินฟรีๆ นี่ยากกว่าตอนที่แจกโบรชัวร์โฆษณาอีก!! คนส่วนใหญ่เดินหนี บางคนเดินมาดู แต่น้อยคนมากๆ ที่จะรับเงินฟรีแบบไม่มีเงื่อนไข




คอมเม้นต์จากเพื่อนคนที่หนึ่ง “แต่ละคนมองหาโอกาสไม่เหมือนกัน คนที่กำลังมองหาโอกาส คือแค่เราหยิบยื่นเค้าก็รีบคว้าไว้ แต่กลับคนที่ไม่ได้มองหาโอกาส ต่อให้เราหยิบยื่นแทบตาย เค้าก็ไม่คว้าไว้ พี่คิดว่าขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของเค้าด้วยว่า ตอนนั้นเค้าอยากได้โอกาสมากน้อยแค่ไหน”


คอมเม้นต์จากเพื่อนคนที่สอง”ผมเป็นคนมองหาโอกาสนะ แต่ต้องเป็นโอกาสที่เข้ากับเราได้ ถ้าผมทดสอบแล้วคิดว่าทำได้ดี ผมพร้อมรับโอกาสนั้น อีกอย่างนึงน่าจะเป็นเรื่องของตอนที่เราแจกเงินให้เค้า ถ้าเรามีพลังในการส่งต่อ มีพลังของการให้เงิน คนที่รอรับอาจจะได้รับรู้ถึงความรู้สึกนั้นแล้วพร้อมรับมันก็ได้”


คอมเม้นต์จากเพื่อนคนที่สาม “คือมันไม่ใช่เรื่องปกติที่คนจะมาแจกเงินฟรีกันไง อะไรที่คนเค้าไม่คุ้น เค้าก็ปฎิเสธไว้ก่อนแหละ เป็นพี่พี่ก็ไม่เอานะ แต่ถ้าเรามายืนแจกกันทุกวัน หรือมีหลายๆ คนมาแจกกันทุกที่ พอมันกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว แบบนี้อ่ะพี่ถึงจะกล้ารับ”


วันนั้นมีสาวเยอรมัน 2 คนมารับเงินแล้วก็พูดคุยกับพวกเรา ทาร่าบอกเค้าว่าฉันแค่อยากพิสูจน์ว่า Malcolm พูดจริงมั้ย เธอก็หัวเราะแล้วขอบคุณพวกเรายกใหญ่แถมยังบอกอีกด้วยว่า “ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นที่เยอรมัน พวกฉันก็อาจจะไม่กล้ารับนะ แต่บังเอิญว่าเราเป็นนักท่องเที่ยวแล้วมาเจอเรื่องนี้ที่ซิดนีย์ เราก็เลยเข้ามารับแจกบ้างเพราะคิดว่ามันน่าสนใจดี คนซิดนีย์น่ารักดีเนอะ 😆”

หนังสือที่ทำให้ทาร่าอยากแจกเงิน


จากเดิมที่ทาร่าคิดว่าคนทั่วไป น่าจะรับเงินคนอื่นทันทีโดยไม่ได้คิดอะไรเลย แต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่อย่างนั้นเลย อาจจะเป็นเพราะกลัวคิดว่าเป็นมิจฉาชีพด้วยหรือเปล่า หรืออาจจะมีหลายร้อยเหตุผลในความคิดของคนค่ะ 


แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทาร่าอยากฝากไว้ให้ทุกคนท้ายบล็อกนี้ค่ะ คำว่า “โอกาส” สั้นๆ คำนี้เป็นคำที่ยิ่งใหญ่มาก ถ้าเราได้รับมันไม่ว่าจะได้จังหวะเวลาไหนของชีวิต สิ่งที่เราควรทำ คือ ถาม พิจารณา สงสัยไว้ก่อน ว่าโอกาสนั้นเป็นยังไง เหมาะไม่เหมาะกับเรายังไง เราค่อยนำมาปรับใช้ แบบนี้น่าจะดีสุด 


ดูคลิปได้ที่นี่ค่ะ


เช่นเดียวกับ “โอกาส” ที่ทาร่าได้รู้จักเรื่องของ Vision Board ที่ช่วยเปลี่ยนชีวิตของผู้หญิงตัว(ไม่)เล็กคนนึง ที่เปิดร้านนวดก็เจ๊ง ซื้อทองก็ดอย ซื้อหุ้นก็ไม่ขยับ แถมยังตกเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่ซ้ำซาก ให้กลายมาเป็นนักลงทุนอสังหา หุ้น แล้วก็มีธุรกิจเล็กๆ ที่เลี้ยงดูทาร่าได้โดยที่ทำงานแค่อาทิตย์ละ 4 ชั่วโมงเท่านั้น 


ทาร่าได้นำความรู้และประสบการณ์ในการทำ Vision Board ให้ได้ผลเป๊ะปังมาเล่าไว้ในหนังสือเล่มนี้แล้ว เพื่อนๆ อย่าปล่อยให้โอกาสนี้ผ่านไปนะคะ ทาร่าเชื่อว่าหนังสือเล่มนี้จะเปลี่ยนชีวิตคุณจริงๆ

 

📙📙📙

 

หนังสือ "Power of Vision Board เปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ" โดย Tara Thow

 

แบบเล่มที่ Se-ed https://bit.ly/3mJ7fNl

E-book ที่ Meb: https://bit.ly/3Bljwh0

E-book ที่ Ookbee: https://bit.ly/3Bn43Nj

 

ช่องทางอื่นๆ ในการติดตามทาร่า:

 

Facebook: https://www.facebook.com/pagetarathow

Youtube: tarathow

IG: tarathow

Blockdit 1: มนุษย์แม่ลูกสองจากเมืองซิดนีย์ By Tara Thow

Blockdit 2: เทคนิคเพี้ยนๆที่เปลี่ยนชีวิตได้จริง by Tara Thow

Blogspot: tarathow.blogspot.com

Tiktok: @tarathow

ติดต่องาน: ไลน์ไอดี tara.thow




12 มกราคม 2565

คาถาเด็ด สำหรับมือใหม่หัดทำคลิป


นาทีนี้ไม่มีอะไรมาแรงเท่ากับการขายของผ่านการไลฟ์ หรือ การทำคลิปวิดีโอ อีกแล้วค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ หรือ สำนักข่าวไหน เค้าฟันธงว่า ปี 2022 เป็นต้นไป แพลตฟอร์มอย่าง Facebook, Youtube , Instragram และที่แรงสุด TikTok ต่างก็ต้องการให้เราเผยแพร่คลิปวิดีโอ หากคุณอยากขายของ เป็นอินฟลูเอนเซอร์ มีตัวตนในโลกออนไลน์ คุณต้องทำคลิปวิดีโอ

 

แต่ 
 
เด็กขี้อาย ไม่กล้ายกมือเวลาอาจารย์ให้แสดงความคิดเห็น แถมเวลาจะพรีเซนต์หน้าห้องยังจะเขินเลย โตมาทั้งชีวิตก็ไม่เคยออกหน้ากล้องเลย ขนาดถ่ายรูปยังเขินๆ ไม่กล้ายกไม้ยกมือเลยจ้า เรียกง่ายๆ ว่าฉันขี้อายจ้าาา
 
แบบนี้ต้องทำยังไงล่ะคะ?? ไม่เป็นไรค่ะ วันนี้ทาร่ามีคาถาเวทมนตร์จาก ฮอกวอร์ต ไม่ใช่แระ มาแจกฟรี ไม่คิดเงินค่ะ

 


 
ทาร่า ได้คาถาลับมาจาก Francesca Moi ผู้หญิงสวยสุดแซ่บจากออสเตรเลียค่ะ เธอเป็น Influencer และเป็น คุณครูสอน Social Media เจ้าของหนังสือ Bums On Seats เธอบอกว่ากฎเหล็กข้อแรก ข้อเดียวสำหรับ มือใหม่ทั้งหลายที่หัดทำคลิป แถมขี้อายสุดอย่างคุณๆ ท่านๆ รวมทั้งทาร่าด้วย
 
คือ ให้จำไว้เลยค่ะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นอย่ามองกลับไปเด็ดขาด!! อ่านช้าๆ ซ้ำๆ อีกครั้งนะคะ อย่าดูคลิปตัวเองย้อนหลังเด็ดขาด!!!
 
“No Matter What Happens, Don't look back!! Never look back!!!”
 
พอเราอัดคลิปวีดิโอ ตัดต่อ ทำกราฟฟิค สวยกริ๊บ เช็กความเรียบร้อย 1 รอบ กด Publish แชร์ให้ทั่วโลกออนไลน์ ฝากเพื่อนสาวกดไลค์ ส่งให้คุณแม่ในไลน์ (ให้คุณแม่แชร์ต่อในไลน์กลุ่มครอบครัวต่อๆ) 
 
Francesca บอกเลยค่ะ คุณไม่ต้องสนใจคลิปนั้นอีกแล้ว ไม่ต้องวนดูซ้ำแล้ว หลังจากนั้นคุณก็ไปกินข้าว อาบน้ำ ทำธุระอะไรให้เรียบร้อย ถึงเวลาว่างมาดู สิ่งที่ต้องทำคือ ตอบคอมเมนต์อย่างเดียวจ้า ใครชมว่าสวย ตอบขอบคุณค่ะ ใครชมว่าอู้ยยย สีปากจืดจัง ตอบขอบคุณค่ะ
 
ครั้งหน้าจะเติมสีปากให้เริ่ดๆ ใครชมว่าดีจังเลยค่ะ มีประโยชน์สุดๆ ตอบขอบคุณ 


 



Francesca เล่าว่าตอนนี้ฉันพูดหน้ากล้องได้คล่องแล้ว ฉันถึงอนุญาติให้ตัวเองดูคลิปของตัวเองได้ และฉันบอกเธอเลยว่า…. ถ้าฉันได้เห็นคลิปที่ตัวเองพูดไว้ตอนแรกๆ ฉันคงเลิกทำช่องไปแล้วอ่ะ มันช่างอ่ะหยั๋งปะล๊ำปะเหลือจริงๆ แต่พอเราได้ทำไปเรื่อยๆ อ่านคอมเม้นต์เพื่อนๆ แล้วเราก็จะค่อยๆ ดีขึ้นเอง
 
เพราะฉะนั้นมือใหม่ทุกคน จงนำคาถาวิเศษของฉันไปใช้กันนะ
 
“ถ่ายแล้ว ตัดรอบเดียวพอ อัพเลยค่ะ อย่าย้อนกลับมาดูคลิปตัวเองวนไปวนมา เดี๋ยวเราจะอายตัวเองแล้วไม่ได้ไปต่อ”
 
ทาร่า เพิ่งได้เริ่มนำคาถานี้มาใช้กับตัวเองแล้วก็คิดว่าดีมากเลยค่ะ มีประโยชน์มากสำหรับมือใหม่ ไม่มีความมั่นใจ ไม่กล้าทำคลิปวิดีโอ เลยนำมาแชร์กับเพื่อนๆ ในบล็อกด้วยค่ะ 
 
เป็นยังไงบ้างคะ เคล็ดลับที่ทำให้คนขี้อายอย่างเราทำคลิปวิดีโอได้ง่ายๆ เฉกเช่น คนอื่นๆ ทาร่าบอกได้เลยว่านี้เป็นแค่เทคนิคลับดีๆ ที่ทาร่าใช้แล้วรู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเลยค่ะ (เพราะเราไม่เห็นคลิปตัวเอง 😅) 
 
นอกจากนี้คุณยังสามารถนำเทคนิค Vision Board ซึ่งบอกได้เลยว่าปังมากกว่านี้ค่ะ  ด้วยพลังจากรูปภาพ ทำให้ชีวิตทาร่าประสบความสำเร็จมาแล้ว ทุกคนสามารถไปติดตามได้จาก หนังสือ "Power of Vision Board เปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ" โดย Tara Thow
 
อ่านแล้วทำตามได้ง่ายๆ เลยค่ะ 
📙 หนังสือ "Power of Vision Board เปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ" โดย Tara Thow
 
แบบเล่มที่ Se-ed https://bit.ly/3mJ7fNl
E-book ที่ Meb: https://bit.ly/3Bljwh0
E-book ที่ Ookbee: https://bit.ly/3Bn43Nj
 
💞 ช่องทางในการติดตามทาร่า
 
Facebook: https://www.facebook.com/pagetarathow
IG: tarathow
Youtube: https://www.youtube.com/c/TaraThow
Blockdit 1: มนุษย์แม่ลูกสองจากเมืองซิดนีย์ By Tara Thow
Blockdit 2: เทคนิคเพี้ยนๆที่เปลี่ยนชีวิตได้จริง by Tara Thow
Blogspot: tarathow.blogspot.com
Tiktok: @tarathow
ติดต่องาน: ไลน์ไอดี tara.thow





Credit Photo : Pixabay, Francesca Moi

07 มกราคม 2565

เปลี่ยนชีวิตกากๆ ให้ปังมาก ภายใน 5 นาที

มีแบบฝึกหัดนึงที่ทาร่าเคยทำในสัมมนาของโทนี่ โรบิน นักเขียน โค้ช นักพูดชาวอเมริกัน ที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันดีในฐานะของนักสร้างแรงบันดาลใจอันดับหนึ่งของโลก และเคยให้บริการโค้ชชิ่งคนดังระดับโลกมาอย่างนับไม่ถ้วน รวมถึง โอปราห์ วินฟรีห์  อานเดร แอกัสซี บิล คลินตัน ลีโอนาร์โด ดิแคพริโอ เจ้าหญิงไดอาน่า แล้วก็แม่ชีเทเรซ่า


วันนี้เลยอยากชวนคุณผู้อ่านมาลองทำแบบฝึกหัดอันเดียวกันดูค่ะ กติกา คือคุณต้องมองภาพนี้แล้วโฟกัสไปที่สีขาวแล้วจำให้ได้มากที่สุด เริ่มค่ะ






ทีนี้ลองตอบคำถาม 2 ข้อดูนะคะ


  1. อะไรบ้างที่เป็นสีขาว

  2. อะไรบ้างที่เป็นสีดำ


งง กันใช่มั้ยคะ พอเปลี่ยนคำถามจากที่ให้ตอบว่ามีอะไรเป็นสีดำ ทุกคนจะแบบ อ้าววว ไม่ได้สังเกตน่ะสิ


😤😤😤😤😤


ในชีวิตจริงของเราทุกคน มันก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ มีอะไรบางสิ่งบางอย่างที่เราให้ความสำคัญมากกว่าบางสิ่งบางอย่าง ยิ่งเราไปโฟกัสกับมันมากๆ เราจะเห็นแต่สิ่งนั้น เหมือนแบบฝึกหัดที่คุณเพิ่งลองทำไปนั่นล่ะค่ะ พอทาร่าบอกให้โฟกัสแต่สีขาวทุกคนก็จะโฟกัสไปที่สีที่ทาร่าบอก ในขณะเดียวกันเราพร้อมจะมองข้ามสีอื่นๆ ที่อยู่ในภาพ และไม่ได้สังเกตองค์ประกอบอื่นที่อยู่ในภาพเลย 


เรามีมุมมองแบบนี้กับชีวิต เวลาเราเจอเรื่องอะไรที่มันไม่ดีก็จะบ่นกับชีวิต มองว่าชีวิตมันซวย ไม่ดี อย่างนู้นอย่างงี้ ทั้งที่ชีวิตไม่ได้แย่ไปทุกนาที เรื่องดีๆ มันเกิดขึนตลอดเพียงแต่เรามักจะโฟกัสไปเรื่องที่ไม่ดี เรามักจะโฟกัสไปแต่เรื่องที่แย่ๆ แล้วเหมาภาพรวมว่าชีวิตมันแย่


ใครที่ติตตามโทนี่ โรบิน น่าจะคุ้นเคยกับประโยคนี้ดี


“ยิ่งเราให้ความสำคัญกับอะไรมากๆ คุณจะยิ่งเห็นแต่สิ่งนั้นไปหมดทุกที่และในทุกอย่าง”



เทคนิคอย่างง่ายที่ทาร่าอยากแชร์คือ หาเวลาว่างให้ตัวเองสัก 5 นาที เป็นช่วงเวลาที่คุณอยู่กับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นทุกคืนก่อนนอน ทุกเช้าตอนตื่นนอน ถามตัวเองว่า วันนี้มีเรื่องอะไรดีๆ เกิดขึ้นกับเราบ้าง ถามตัวเองบ่อยๆ พยายามมองหาโฟกัสพลังบวกที่เกิดขึ้นในชีวิตค่ะ


การทบทวนมองหาสิ่งดีๆ ในชีวิตทาร่ามองว่าจะเชื่อมโยงไปถึงภาพความสำเร็จ เล็กๆ ในแต่ละวัน เช่น วันนี้เราเพิ่งจะทำอาหารมื้อค่ำให้ครอบครัวทาน แล้วทุกคนประทับใจ ลูกก็ชมว่าอร่อย คุณแฟนทานหมดจานแถมเติมข้าวสวยด้วย เรื่องเล็กๆ น้อยแบบนี้อาจจะไม่ได้เป็นสิ่งที่เรานึกถึงค่ะ เพราะเราทำอาหารทุกวัน เราทำจนเป็นกิจวัตรไม่ได้มองว่าเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่อะไร 



บนโต๊ะอาหารเรามักจะโฟกัสไปที่บทสนทนาว่า ลูกชายเรียนวิชาอะไร วันนี้ทำคะแนนได้ดีไหม เข้ากับเพื่อนได้ดีไหม มีใครรังแกที่โรงเรียนหรือเปล่า เราโฟกัสไปที่คุณแฟนว่า ทำงานหนักไหม ขาดเหลืออะไรตรงไหนหรือเปล่า เราโฟกัสไปที่คนอื่นจนบางครั้งเราไม่ได้โฟกัสที่ตัวเองค่ะ 

อย่าลืมนะคะว่า สิ่งเล็กๆ ที่เราใช้ความพยายามทำจนสำเร็จในเเต่ละวัน ในแต่ละช่วงชีวิต แม้เรามองว่าไม่ยิ่งใหญ่แต่อย่าลืมว่าทุกก้าวเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ชีวิตเราเดินหน้าต่อไป เรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นในวัน เป็นโฟกัสที่เราต้องมองเห็น ที่สำคัญคือเป็นการเปลี่ยนมุมมองการใช้ชีวิตให้เราได้ค่ะ 

อ่านจบแล้วใครอยากเปลี่ยนชีวิตกากๆ (หรืออาจจะไม่กาก) ก็ลองทำตามดูได้นะคะ ที่สำคัญใครอยากหาความเป๊ะปังทั้งเรื่องเงิน งาน ความรัก ครอบครัว สุขภาพ จิตวิญญาณ ทุกสมดุลของชีวิตทาร่าแนะนำหนังสือเล่มนี้เลยค่ะ 


ขอบคุณรูปภาพ : Pixabay 


📙 หนังสือ "Power of Vision Board เปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ" โดย Tara Thow

 

แบบเล่มที่ Se-ed https://bit.ly/3mJ7fNl

E-book ที่ Meb: https://bit.ly/3Bljwh0

E-book ที่ Ookbee: https://bit.ly/3Bn43Nj

 

💞 ช่องทางในการติดตามทาร่า

 

Facebook: https://www.facebook.com/pagetarathow

Youtube: https://www.youtube.com/c/TaraThow

IG: tarathow

Blockdit 1: มนุษย์แม่ลูกสองจากเมืองซิดนีย์ By Tara Thow

Blockdit 2: เทคนิคเพี้ยนๆที่เปลี่ยนชีวิตได้จริง by Tara Thow

Blogspot: tarathow.blogspot.com

Tiktok: @tarathow

ติดต่องาน: ไลน์ไอดี tara.thow




หายใจเพื่อชีวิตดี๊ดี แค่วันละ 1 นาที

ก่อนอื่นทาร่าอยากให้ทุกคนรู้จักคำว่า Breath Exercise ภาษาไทยคือ การฝึกการหายใจ ซึ่งมีหลายรูปแบบมากค่ะ แต่รูปแบบหนึ่งที่ทาร่า รู้จักคือการฝึกการหายใจเพื่อสลายความเครียด เราโกรธใครก็หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ แบบนั่นใช่มั้ยคะ ที่สำคัญคือคุณต้องมีสติอยู่ กับตัวเอง


ที่ผ่านมาทาร่าเข้าใจแบบนี้มาโดยตลอด เราไม่รู้เลยค่ะว่าการหายใจเป็นศาสตร์อีกหนึ่งอย่างที่ ลึกลับ ซับซ้อน สามารถทำได้หลายเทคนิค หลายแบบหลายวิธี





จนกระทั่งวันหนึ่ง ทาร่าได้โหลดแอปพลิแคชั่น ชื่อว่า Noom เป็นแอปพลิแคชั่นแบบสมัครสมาชิก สำหรับติดตามการบริโภคอาหารและพฤติกรรมการออกกำลังกายของบุคคล ง่ายๆ คือ แอปลดน้ำหนัก นั่นเองค่ะ 

การทำงานของเจ้า Noom เบื้องต้นคือ ให้เราชั่งน้ำหนัก ตั้งค่าน้ำหนักตัวเอง ตั้งค่าอาหาร ดูว่าแต่ละวันเรากินอะไรเข้าไปบ้าง กี่แคล เหลืออีกกี่แคล ตั้งค่าการขยับของร่างกายว่า วันนี้เราขยับร่างกายยังไงบ้าง เดินกี่ก้าว วิ่งเท่าไหร่ 





ทาร่าเลิฟสุดตรงที่เค้าจะมีบทความเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพร่างกายของเรา สั้นๆ ให้อ่านวันนึงใช้เวลาประมาณ 5 - 10 นาที แต่ที่น่าสนใจและอยากมาแชร์คือเรื่องของ Breath Exercise ซึ่งเกี่ยวข้องกับน้ำหนักของเราค่ะ

ตอนทาร่าอ่านจบยังงงค่ะ ว่าการหายใจเนี่ยมันเกี่ยวกับ ความเครียด ยังไง ในบทความเค้าบอกแบบนี้ค่ะ ความเครียดจะทำให้เราลดน้ำหนักได้ยากขึ้น ซึ่งตรงนี้ตรงกับรายงานที่ทาร่าไปค้นเพิ่มเติมของ เครือข่ายคนไทยไร้พุง เค้าบอกว่า เมื่อร่างกายเราตกอยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด เช่น ช่วงสอบ อกหัก ตกงาน จะเกิดการหลั่งของฮอร์โมนที่ตอบสนองต่อความเครียด ซึ่งมีชื่อเรียกว่า คอร์ติซอล (Cortisol) เมื่อสภาวะที่ตึงเครียดบีบคั้นหายไป ระดับของฮอร์โมนเครียดจะลดลงนั่นเอง


ร่างกายเข้าใจว่าในภาวะเครียด เราต้องการพลังงานจำนวนมาก ที่นี่ฮอร์โมนเครียดจึงสั่งการให้เราหิวง่ายกว่าปกติ อาหารที่ทำให้อ้วนๆ ทั้งหลาย ประเภทคาร์โบไฮเดรต หรืออาหารน้ำตาลสูง ไอศกรีม เค้ก และ ช็อคโกแล็ต เลยเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่เราอยากทานแก้เครียดนั่นเองค่ะ 




ที่นี่กลับมาที่เทคนิคการหายใจของเราค่ะ ทาร่ามีเทคนิคมาแชร์ 3 แบบให้คุณผู้อ่านได้ลองทำตามดูเลยค่ะ 


เทคนิคที่ 1 เป็นการหายใจเพื่อร่างกาย เรียกว่า falling-out breath เป็นการหายใจเพื่อ ดูแลร่างกาย ของเรา วิธีการคือ หายใจเข้า ลึกๆ ลึกที่สุด เท่าที่เรา จะลึกได้ เราต้องอดกลั้น ไว้อย่าหายใจออกจนกระทั่งเราหายใจเข้า เฮือกสุดท้าย ที่ลึกเข้าไปอีกแล้วก็หายใจออก มาแรงๆ แล้วออกเสียงว่า “ฮ่า!!!”


เทคนิคที่ 2 เป็นการหายใจเพื่อจิตใจเรียกว่า box breath เทคนิคนี้ ช่วยดูแลจิตใจเรา แถมยังเป็นเทคนิคเดียวกับที่เราปรับใช้เวลาเจอสถานการณ์ยากๆ ด้วยนะคะ ปรับลมหายใจให้ผ่อนคลาย วิธีการคือให้หายใจเข้า ออกแล้วนับถึง 4 แล้วให้ กลั้นเอาไว้ แล้วนับถึง 4 อีก แล้วให้เราหายใจออกให้นับถึง 4 อีก แล้วให้เรากลั้นไว้นับ 4 อีก แล้วก็ หายใจออกอีก วนไปเรื่อยๆ แบบนี้ค่ะ


เทคนิคที่ 3 เป็นการหายใจเพื่อจิตวิญญาณ เรียกว่า emptying breath วิธีนี้คือ เวลาหายใจเข้าให้เรานับ 3 แล้วเวลาหายใจออกให้เราผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ แล้วนับถึง 6





เป็นยังไงบ้างคะ 3 เทคนิคการหายใจเพื่อชีวิตดีดี๊ที่ใช้เวลาฝึกไม่นานค่ะ ลองทำตามกันได้ เราอาจไม่ต้อง ทำทั้ง 3 อย่างก็ได้ ลองดูว่ามีเทคนิคแบบไหนที่เราชอบนำมาฝึกบ่อยๆ ฝึกทำทุกวันเพื่อ ดูแล ร่างกายจิตใจและ จิตวิญญาณ


หมายเหตุ: สำหรับคนที่อ่านแล้วนึกภาพไม่ออก ทาร่ามีคลิปด้วยค่ะ ลองทำตามดูนะคะ แล้วคุณจะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของร่างกายแน่ๆแล้วหนึ่ง (ส่วนจิตใจกับจิตวิญญาณนี่ทาร่าก็แยกไม่ออกอ่ะ)


https://www.youtube.com/watch?v=eGl3yGPznns 



ข้อมูลเพิ่มเติม : เครือข่ายคนไทยไร้พุง ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย โดย พญ. ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล 

รูปภาพ : Pixabay 


สาระดี ๆ ยังมีในบล็อกเป็นประจำค่ะ แต่ใครที่กำลังมองหาสมดุลชีวิต เป๊ะปังทั้งเรื่องเงิน งาน ความรัก ครอบครัว สุขภาพ จิตวิญญาณ ใดๆ ก็แล้วแต่ ทาร่าแนะนำหนังสือเล่มนี้เลยค่ะ 

 

📙 หนังสือ "Power of Vision Board เปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ" โดย Tara Thow

 

แบบเล่มที่ Se-ed https://bit.ly/3mJ7fNl

E-book ที่ Meb: https://bit.ly/3Bljwh0

E-book ที่ Ookbee: https://bit.ly/3Bn43Nj

 

💞 ช่องทางในการติดตามทาร่า

 

Facebook: https://www.facebook.com/pagetarathow

IG: tarathow

Youtube: https://www.youtube.com/c/TaraThow

Blockdit 1: มนุษย์แม่ลูกสองจากเมืองซิดนีย์ By Tara Thow

Blockdit 2: เทคนิคเพี้ยนๆที่เปลี่ยนชีวิตได้จริง by Tara Thow

Blogspot: tarathow.blogspot.com

Tiktok: @tarathow

ติดต่องาน: ไลน์ไอดี tara.thow




06 มกราคม 2565

ความ "ยุ่ง" มี 2 แบบ... คุณกำลัง "ยุ่ง" แบบไหนอยู่??

มีชีวิตใครไม่ยุ่งวุ่นวายบ้างคะ ทาร่าเชื่อว่าทุกคนต้องเคยประสบปัญหานี้ค่ะ วันนี้เลยจะมาแนะนำเรื่องราวความยุ่งค่ะ คงไม่มีใครที่แบบโอ้ยชีวิตเราสบาย ไม่ยุ่งเลย ต่อให้คนรวยระดับ 100 ล้าน หรือ คนระดับปานกลางเงินเดือน 15,000 บาท ทุกคนต้องประสบปัญหานี้เหมือนกัน 

    Credit:Picxabay

วันนี้ทาร่าจะมาแชร์เรื่องราวความวุ่นวายในชีวิตของทาร่าค่ะ ขอยกตัวอย่างให้ฟังเป็นประสบการณ์ส่วนตัวค่ะ มีช่วงหนึ่งทาร่าเรียนภาษาจีนเพิ่มเติม แล้วต้องผ่าน การสอบวัดระดับความรู้ภาษาจีน หรือ ชื่อย่อว่า HSK ค่ะ


ช่วงนั้นรู้สึกยุ่งกับการทำการ์ดคำศัพท์ภาษาจีนด้วยตัวเองค่ะ นั่งจด นั่งคัด ไปเรื่อยๆ เพื่อแบบพกใส่กระเป๋า เวลาไปไหนว่างจะได้อ่าน ได้ท่องง่ายๆ ทีนี่การสอบ HSK 1 เนี่ยมีคำศัพท์ 150 คำ ตอนที่คัดภาษาจีนก็รู้สึกเหนื่อยจังเลย ทำไมมันเยอะขนาดนี้ ทั้งง่วงทั้งเบื่อ ใช้เวลาคัดทั้งหมด 4 วัน 


ทีนี้รู้สึกว่า HSK 1 ง่ายค่ะ รู้สึกว่าง่ายเกิน ไปท่องระดับ 2 เลยหละกัน แล้วเราก็คิดได้เองว่า เฮ้ย บัตรคำศัพท์แบบนี้ไม่มีคนทำขายหรอ เราก็เอ้าไปลองเปิดหาในเว็บช้อปปิ้งออนไลน์ คุณพี่!! มีขายจริงๆ ราคาแค่ 28 เหรียญ แถมส่งถึงหน้าบ้านอีก โอ้ยยยเราก็รู้สึกว่า อยากจะเอาหัวไปโขกกำแพงค่ะ ทำไมเราไม่หาตั้งแต่ ท่องคำศัพท์ของ HSK 1 หละเนี่ย นาทีนั้นคือรู้สึกว่า เอาเวลา 4 วันของฉันคืนมา งื้อออ


                                   Credit : Amazon


เรื่องนี้ก็เลยกลายเป็นที่มาของบทความนี้ค่ะว่า ทุกวันนี้เรายุ่งแบบไหน เราใช้เวลากับบางสิ่งบางอย่าง แล้วเราบอกคนรอบข้างว่าเรายุ่ง เวลาคนในครอบครัวเข้ามาแทรกระหว่างทำงาน เราก็บอกว่า ค่อยมาหาได้ไหม ตอนนี้เรายุ่ง เราไม่ว่าง ไม่มีเวลาให้ โดยเราไม่ได้พิจารณาว่าสิ่งที่เรากำลังทำ เป็นการใช้เวลาแบบมีประสิทธิภาพหรือไหม เป็นการทำงานจริงๆ หรือไหม


เลยให้ทาร่าเกิดคำถามว่า เรายุ่งเพื่อให้ดูว่ามีอะไรทำไปวันๆ เรายุ่งแบบมีประสิทธิภาพ ในมุมมองของทาร่ารู้สึกว่าการทำการ์ดสำหรับท่องศัพท์ที่กินเวลาไป 4 วัน คือไม่คุ้มเลย ถ้าเราค้นคว้าก่อนว่ามีการ์ดคำศัพท์แบบนี้ ทาร่ารู้สึกว่าซื้อมาคุ้มกว่า เยอะ กลายเป็นบทเรียนง่ายๆ เลยค่ะ ว่าก่อนจะทำอะไรบางอย่างต้องคิดก่อนว่าที่เรายุ่งจะทำงานนี้มันทำให้เกิดความคุ้มค่าในชีวิตหรือไหม เป็นเรื่องราวตลกๆ ที่อยากมาแชร์กันค่ะ 


Don’t mistake “being busy” with “being productive”


อย่าเข้าใจผิดว่า “กำลังยุ่ง” แปลว่า “กำลังสร้างผลลัพธ์”


ใครซักคนเคยกล่าวไว้… ถึงแม้ว่าทาร่าจะตื่นรู้ไปแล้วในครั้งนั้น แต่ทุกวันนี้บางครั้งก็ยัง “เข้าใจผิด” อยู่บ่อยๆ บางวันก็ยุ่งเรือหาย จนลืมถามตัวเองไปเลยว่า นังทาร่า!! แกกำลังยุ่งแบบไหนอยู่ ฮ้า??!!!?


ทาร่าหวังว่าบทความนี้จะช่วยตั้งคำถามให้เพื่อนๆบ้างนะคะ


สำหรับใครที่อยากมีชีวิตในฝัน ทาร่ายังมีอีกหนึ่งเครื่องมือมาแนะนำด้วยค่ะ 


“Power of Vision Board: เปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ” เป็นเทคนิคลับที่ทาร่าใช้เนรมิตรชีวิตในฝัน จากที่เปิดร้านนวดคนเดียวก็เจ๊ง หุ้นกับเพื่อนก็เจ๊ง ซื้อทองก็ดอย ซื้อหุ้นก็ไม่ขยับไปไหน แต่ด้วยเทคนิคการมีเป้าหมายที่ชัดเจนและจดจ่ออยู่กับเป้าหมายด้วยการทำ Vision Board ทาร่าก็สามารถ semi-retire (มีอิสรภาพทางการเงิน) ได้ตอนอายุ 35 ปีค่ะ

 

ใครอยากออกแบบชีวิตได้เองแบบเสกได้ เรียนเชิญไปตำทางช่องทางต่อไปนี้เลยค่ะ 😘😘😘

 

 

📙📙📙

 

หนังสือ "Power of Vision Board เปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ" โดย Tara Thow

 

แบบเล่มที่ Se-ed https://bit.ly/3mJ7fNl

 

E-book ที่ Meb: https://bit.ly/3Bljwh0

 

E-book ที่ Ookbee: https://bit.ly/3Bn43Nj

 

🌼 🌻🌼 🌻🌼 

 

ติดตามทาร่าได้ที่

 

Facebook: https://www.facebook.com/pagetarathow

 

Youtube: tarathow

 

IG: tarathow

 

Blockdit 1: มนุษย์แม่ลูกสองจากเมืองซิดนีย์ By Tara Thow

 

Blockdit 2: เทคนิคเพี้ยนๆที่เปลี่ยนชีวิตได้จริง by Tara Thow

 

Blogspot: tarathow.blogspot.com

 

Tiktok: @tarathow

 

ติดต่องาน: ไลน์ไอดี tara.thow