16 สิงหาคม 2565

สรุปหนังสือ the Richest Man in Babylon โดยเด็ก 9 ขวบ

เรื่องบางเรื่องแม่ก็ไม่รู้จะรู้สอนลูกยังไง แต่หนังสือดีๆนี่มันสอนแทนเราได้จริงๆนะ

ใครอยากสอนลูกเรื่องการเงิน ขอป้ายยาเล่มนี้เลยค่ะ THE RICHEST MAN IN BABYLON เศรษฐีชี้ทางรวย (มีแปลภาษาไทย) เป็นหนังสือแนวเรื่องเล่าที่คลาสสิกมากๆ ตัวละครในหนังสือเป็นผู้ชายธรรมดาคนนึงที่อยากร่ำรวย จึงได้ไปถามความลับจากผู้ชายที่มั่งคั่งที่สุดในเมืองบาบีลอน และชายคนนั้นก็ค่อยๆ สอนเขาจนกระทั่งเขากลายเป็นคนที่มั่งคั่งเหมือนกัน


เราให้ลูกชายอ่านเล่มนี้ตอน 9 ขวบ แล้วให้เค้าลองสรุปให้ฟัง เอ้ย!! มันได้ผลดีเกินคาดมาก และนี่คือสิ่งที่เด็ก 9 ขวบตกผลึกได้จากหนังสือเล่มนี้ค่ะ


Credit : Se-Ed


1) อยากรวยต้องใช้เงินแค่ 90%


ถ้าเราอยากรวยต้องใช้เงินที่หาได้แค่ 90% เท่านั้น และแบ่ง 10% ไว้เป็นเงินเก็บสำหรับต่อยอดเพื่อสร้างรายได้เพิ่มในอนาคต เช่น หากเราเก็บเงินได้มากพอ เราอาจจะเริ่มจากการซื้อเครื่องทำบะหมี่มาก่อน (ใช่จ้า ลูกเราชอบกินอาหารประเภทเส้นๆ มาก) หลังจากที่เราเอาบะหมี่ของเราไปขายและได้เงินมาแล้ว เราก็ใช้แค่ 90% และเก็บ 10% ไว้เพื่อลงทุนต่อ คราวนี้เราอาจจะซื้อเป็น ผงชูรส เครื่องปรุง ซอส เพิ่มเพื่อที่จะเอามาขายคู่กับบะหมี่ของเรา แล้วก็ต่อยอดไปเรื่อยๆ ด้วยสูตร 90-10 นี่แหละ


2) เก็บเงินไว้ในที่ปลอดภัย


ถ้าเราอยากรวย เราต้องเก็บเงินของเราไว้ในที่ปลอดภัย ต้องไม่เอาไปแอบซ่อนไว้ใต้ต้นไม้ ไม่ตั้งไว้ที่ๆ โจรสามารถเดาได้ง่ายๆ เราต้องไม่เล่นตามเกมของโจร


3) ให้ความสำคัญการกับซื้อของที่จำเป็นก่อน


เมื่อเรามีรายได้ เราต้องนำเงินไปใช้จ่ายกับสิ่งที่จำเป็นมากกว่าสิ่งของไร้สาระ สิ่งที่จำเป็น เช่น เสื้อผ้า อาหาร บ้าน ยา หรือบ้านแบบที่เราสามารถอยู่ได้ในช่วงเวลานั้นๆ จนวันที่เราเริ่มมีรายได้มากขึ้น เราถึงจะเริ่มขยับขยายไปซื้อสิ่งของไร้สาระได้ (บ้าง) หรือมีบ้านที่มันหรูหราใหญ่โตขึ้นได้ ที่สำคัญคือ เราต้องแยกแยะให้ได้ว่าอะไรคือสิ่งจำเป็น และอะไรคือสิ่งไม่จำเป็น 


Credit : Pixabay 

4) มีสติก่อนลงทุน


การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนลงทุน และเราต้องแยกแยะให้ออกว่าอะไรคือความจริง อะไรคือขายฝัน เช่น ถ้ามีคนมาชวนคุณให้ไปซื้อที่ดินบนดวงจันทร์ คุณก็จะต้องเอะใจแล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอก คุณต้องเชื่อในสัญชาตญาณของตัวเอง และต้องดูคนให้ออก ดูว่าคนที่มาชักชวนเราเนี่ยะ เค้าดูน่าเชื่อถือมั้ย เค้าฉลาดรึเปล่า เราต้องลงทุนกับคนที่ฉลาดและน่าเชื่อถือเท่านั้น


5) อย่ามองงานเป็น “งาน” แต่จงมองงานเป็น “เพื่อน” 


เราต้องไม่มองงานเป็นศัตรู คู่แข่ง หรืออะไรที่เราไม่ชอบ แต่ต้องมองว่างานกับเราเป็นเพื่อนกัน แล้วเราจะสามารถทำงานได้ดีและมีความสุข เราต้องคิดว่างานเป็นเพื่อน งานช่วยให้เรามีเงิน ช่วยเหลือเราเวลาทุกข์ยาก ที่สำคัญงานช่วยให้เรารวย 


6) เงินคือเมล็ดพันธุ์ 


ให้เราปฏิบัติเงินเหมือนเป็นเมล็ดพันธ์ุที่เราต้องค่อยๆ ประคบประหงม และดูแลให้มันงอกเงย เราต้องนำเงินไปลงทุน และเฝ้ามองดูมันเติบโต อย่านำเงินที่หาได้ไปใช้จนหมด ถ้าทำแบบนั้นเราจะไม่มีเงินเหลือไว้ให้งอกเงยเลย 


7) อย่ากลัวที่จะลงทุน


การเก็บเงินไว้เฉยๆ นอกจากจะไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว มันยังทำให้เราเสียโอกาสในการลงทุนอีกด้วย เพราะฉะนั้นเราต้องไม่กลัวที่จะนำเงินที่หาได้ไปต่อยอดเพื่อสร้างเครื่องผลิตเงินเพิ่ม แต่เราก็ต้องดูด้วยว่าสิ่งนั้นมันจะช่วยผลิตเงินให้เราจริงๆ (ไม่ได้เอาไปซื้อที่ดินบนดวงจันทร์ไว้เพื่อเก็งกำไรนะ แบบนั้นไม่ได้เรียกว่าการลงทุน แต่เรียกว่าการพนัน)

Credit : Pixabay 


8) ถ้ามีหนี้ต้องรีบใช้


ถ้าเรามีหนี้ ในตอนแรกมันมักจะดูเล็กน้อยเหมือนศัตรูตัวเล็กๆ แต่ถ้าเราไม่บริหารจัดการให้ดี หนี้ก้อนนี้จะกลายเป็นหนี้ก้อนใหญ่ จนกลายเป็นศัตรูตัวใหญ่ขึ้นในภายหลัง เพราะฉะนั้นเราต้องจัดการศัตรูตั้งแต่ตอนที่มันยังเล็กๆ 


9) ทุกคนมีความเก่งในแบบของตัวเอง 


คุณอาจจะทำกับข้าวเก่ง คุณอาจเขียนหนังสือเก่ง คุณอาจขายของเก่ง คุณอาจตลก คุณอาจหน้าบึ้ง คุณอาจจะสอนคนอื่นเข้าใจ ทุกอย่างสามารถนำมาหาเงินและสร้างรายได้ให้คุณได้ทั้งนั้น ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือมากๆ คุณอาจจะนั่งอ่านหนังสือทั้งวัน ทั้งคืน เพื่อหาข้อมูล แล้วเอามา เขียนหนังสืออีกเล่มนึง เป็นหนังสือรวบรวมทุกสิ่งอย่างจากหนังสือทุกเล่มที่คุณอ่านไป แบบนี้ก็สามารถนำไปขายได้และสร้างรายได้ให้คุณได้เหมือนกัน 


10) เราต้องยืนได้ด้วยขาของตัวเอง 


เราต้องเรียนรู้ที่จะพึ่งพาตัวเองให้ได้ สมมุติว่าเราลงทุนเปิดร้านอาหารกับเพื่อน ทำงานร่วมกันเป็นทีมจนรวย แต่ถ้าวันนึงเพื่อนเราถอนทุนคืน เราก็ต้องทำงานนี้ต่อเองได้ด้วย ไม่อย่างนั้นเราก็จะกลายเป็นคนจนทันที


11) คำแนะนำดีๆ ไม่จำเป็นต้องใช้เงินแลกมาเสมอไป


คุณอาจจะคิดว่าทุกอย่างบนโลกนี้ต้องใช้เงินแลกมาเสมอ แต่นั่นไม่จริงเลย บนโลกนี้ยังมีสิ่งนึงที่ฟรี มันคือ คำแนะนำจากคนฉลาดนั่นเอง ถ้าเราอยากรู้ว่าคนรวยเขาทำยังไงถึงรวย เราก็แค่ต้องไปถามคนแบบนั้นและเรียนรู้จากเขา เริ่มจากคนที่รวยที่สุดในหมู่บ้านเราก็ได้ คำแนะนำแบบนี้ เราสามารถขอเค้าได้ฟรีๆ เลย


หูยยย… ได้ยินลูกสรุปมาแบบนี้แล้วเรายิ่งมั่นใจเลยว่า เรื่องบางเรื่อง แม่อย่าวเราก็ไม่สามารถสอนลูกได้ดีเท่ากับ “หนังสือ” ทัศนคติบางอย่าง เราเองยังคิดไม่ได้เลย ตอนฟังลูกสรุป เรายังพูดกับตัวเองในใจเลยว่า “เออจริง!!” “สุดยอด” แล้วก็ 


“แม่ต้องเอาไปปรับใช้บ้างแล้ว”



😎😎😎😎😎


เกี่ยวกับเรา


Tara Thow อ่านว่า ทาร่า โถว เป็นมนุษย์แม่ลูกสองอยู่ที่ซิดนีย์ สนใจศาสตร์พัฒนาตัวเอง ปรัชญา ธุรกิจ ครอบครัว รักเสียงเพลง ไวน์แดง และนิยาย


#เวิร์กช็อปกฎแรงดึงดูดสูตรวิทยาศาสตร์สมอง


#คอร์สธุรกิจออนไลน์เริ่มง่ายไม่ต้องใช้เงินทุน


#หนังสือเปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ


#สอนภาษาไทยให้เด็กๆที่เกิดต่างประเทศ


#อบรมครูสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ



💞 💞💞💞💞


ช่องทางในการติดตามเราจ้าา.. 😘


Facebook: https://www.facebook.com/pagetarathow


IG: tarathow


Youtube: https://www.youtube.com/c/TaraThow


Blockdit 1: มนุษย์แม่ลูกสองจากเมืองซิดนีย์ By Tara Thow


Blockdit 2: จุด by Tara Thow


Twitter: @tarathow


Blogspot: tarathow.blogspot.com


Tiktok: @tarathow


Line: @tarathow


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น