22 กุมภาพันธ์ 2565

บอกลาคนที่คุณไม่ชอบด้วยวิธีไสย ไสย

 ⁉️ เคยไหมคะที่เราไม่ชอบคน ๆ นี้ มีสิ่งบางอย่างในตัวเค้าที่เราไม่ชอบ จะด้วยนิสัย ท่าทาง หรืออะไรบางอย่าง ที่ทำให้เรารู้สึกว่าไม่อยากยุ่ง ไม่อยากเข้าไปอยู่ในวงจรชีวิตเค้าเลย วันนี้ทาร่าจะมาแจกคาถา บอกลาคนที่เราไม่ชอบ เตรียมจดเลยค่ะ


มู เต มา มู 

ไม่ใช่ค่ะ ล้อเล่น ฮ่า ๆ เอาซะอาจารย์ตัวจริงสะดุ้ง เรื่องนี้ทาร่าได้ยินมาจากหนังสือเสียง You can heal your life ของ Louise Hay ค่ะ



Louise Hay นางได้บอกไว้ว่า เชื่อไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ทุกคน ทุกความสัมพันธ์ ที่อยู่ในชีวิตเราเนี่ย ไม่ว่าจะเป็นเจ้านาย ลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน แฟน ลูก ไม่เว้นกระทั่ง หมา แมว ทุกสิ่งอย่าง ทุกความสัมพันธ์ที่เข้ามาในชีวิตเราเนี่ยใด ๆ ไม่มีเรื่องบังเอิญทั้งสิ้น "เรา" เป็นคนดึงดูดความสัมพันธ์ทั้งหมดเข้ามาในชีวิตของเรา ด้วยตัวของเราเอง



Credit : Pixabay


ส่วนสาเหตุที่เราดึงดูดคนพวกนี้เข้ามาในชีวิตเรามีด้วยกัน 2 อย่าง คือ 


1.เค้ามีบางสิ่งบางอย่างที่เหมือนกับเรา 


หรือ


2. เค้ามีสิ่งที่เราขาด และเราจำเป็นต้องมีสิ่งนั้น!!



และไม่ว่าเราจะดึงดูดเค้ามาด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่ถ้าเราไม่ชอบเค้าเลย (ภาษาใต้ คือ เราไม่ถูกโรคกับเค้าค่ะ 😅) วิธีที่เราจะเชิญคนแบบนี้ออกไปจากชีวิตเรา Louise Hay นางบอกให้ทำแบบนี้ค่ะ



  1. หลับตา แล้วนึกถึงคนที่เราไม่ต้องการให้อยู่ในชีวิตเราแล้ว 


  1. ให้เรานึกถึงคุณสมบัติ (ไม่เอาเป็นคนนะ) ที่เราไม่ชอบ ไม่ว่าจะเป็นการจู้จี้ ขี้บ่น การตรงต่อเวลาเกินไป ขี้หึง ไม่ฟังเรา อีโก้สูง คิดเองไม่ได้ ไม่ตรงเวลา อะไรก็ตาม ที่เป็นนิสัยที่ทำให้เรารู้สึกหงุดหงิด ให้เราแยกนิสัยพวกนี้ออกมา


  1. แล้วให้เราลองกลับมาถามตัวเองว่า เคยมีบ้างไหม ที่ฉันทำนิสัยอย่างนี้?? เช่น ไม่ไว้ใจกัน ไม่เชื่อ ไม่พูดความจริง นิสัยอะไรก็ตามที่เราทนไม่ได้ในตัวเค้า…. แต่เราก็ทำเหมือนกัน หรืออาจจะไม่ได้ทำแล้ว แต่เมื่อก่อนเราก็เป็นแบบเดียวกันนี่แหละ 🥲 ถ้าตอบข้อนี้ไม่ได้ก็ข้ามไปข้อ 4 เลยค่ะ


  1. ให้เราลองถามตัวเองว่า นิสัยแบบนี้ คุณสมบัติอย่างนี้ มันมาเติมเต็มส่วนไหนของเรา??? เราขาดอะไร? ทำไมเราต้องมาเจอการปฏิบัติแบบนั้น?? เราเป็นคนยังไง แล้วสิ่งนี้ (จากคนนั้น) มันมาช่วยชีวิตเราไว้ยังไง?? มันดีกับเรายังไง? มันมีประโยชน์อะไรกับชีวิตเราบ้าง?


พยายามคิดให้ครอบคลุมที่สุด ทั้งเรื่องส่วนตัว ความสัมพันธ์ หน้าที่การงาน สุขภาพ ครอบครัว และสังคม ทั้งตอนนี้ ทั้งในอดีต ทั้งกับทุกคน หรือกับบางคน พยายามมองทั้งลึก ทั้งกว้าง จนกว่าจะร้องออกมาว่า "อ่า ฉันเห็นแล้วแหละ ว่านิสัยนี้ฉันเป็นคนดึงดูดเข้ามาเอง"


  1. แล้วก็ให้ยอมรับกับตัวเองว่า แต่ตอนนี้ฉันไม่ได้ต้องการนิสัยแบบนี้แล้ว!! โอเค ฉันอาจจะเคยเป็นคนแบบนั้น หรือฉันอาจจะทำแบบนั้นกับบางคน แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่ามันน่าหงุดหงิดใจแค่ไหน ตอนนี้ฉันเองก็ไม่อยากมีนิสัยนี้แล้ว ฉันก็จะเลิกนิสัยนั้นเหมือนกัน!!


หรือโอเค ครั้งหนึ่งฉันอาจจะเป็นคนแบบนั้น ถึงได้รับการปฏิบัติแบบนี้ ฉันยอมรับแล้วว่าฉันเป็นคนดึงดูดนิสัย/พฤติกรรมแบบนี้เข้ามาเอง แต่ตอนนี้ฉันไม่ต้องการมันแล้วเพราะอะไรก็ว่าไป


(ทาร่าคิดว่าการทำแบบนี้ เหมือนเราได้คุยกับตัวเอง ได้มองเห็นตัวเอง เราได้ปลดล็อคตัวเองไปแล้ว)




ง่ายๆ แค่นี้ แล้วเราจะได้พบกับความมหัศจรรย์ของมัน ซึ่งสามารถเกิดได้ 2 กรณี  คือ 


  1. อยู่ดีๆ เค้าคนนั้นจะออกจากชีวิตของเราไปเอง อาจจะมีเหตุผลที่เข้าใจได้ หรือไม่มีเหตุผล อยู่ดี ๆ ก็หายไปเฉย ๆ 


  1. เค้าจะยังอยู่เหมือนเดิม แต่อยู่ดี ๆ เค้าก็ไม่มีนิสัยแบบนั้นแล้ว จากเดิมที่เคยหึงหวง ก็กลายมาเป็นคนที่ไว้ใจ เชื่อใจซะงั้น 





นี่ก็เป็นเคล็ดลับง่าย ๆ ใช้เวลาไม่นาน ได้ผลก็ดี ไม่ได้ผลก็ไม่ได้เสียหายอะไร ใครมีความเป็นยังไง พิมพ์ไว้ในคอมเม้นต์ได้เลยนะคะ


นอกจากเทคนิคแปลกๆ แบบนี้แล้ว ทาร่ายังมีอีกเทคนิคนึงที่ไม่แปลกเท่า ง่ายพอ ๆ กัน แต่ได้ผล 1000% ทาร่าใช้มาตั้งแต่ยังโสด จนตอนนี้เป็นมนุษย์แม่ลูกสองแล้วค่ะ มันคือศาสตร์แห่งการทำ vision board ค่ะ 👉 อยากได้ อยากมี อยากให้ชีวิตเราเป็นยังไง 👉 แค่หารูปมาแปะไว้ แล้วเตรียมพบกับความมหัศจรรย์ในชีวิตได้เลย 🥳



 📙 หนังสือ "Power of Vision Board เปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ" โดย Tara Thow

 

แบบเล่มที่ Se-ed https://bit.ly/3mJ7fNl

E-book ที่ Meb: https://bit.ly/3Bljwh0

E-book ที่ Ookbee: https://bit.ly/3Bn43Nj

 

ช่องทางในการติดตามทาร่า

 

Facebook: https://www.facebook.com/pagetarathow

IG: tarathow

Youtube: https://www.youtube.com/c/TaraThow

Blockdit 1: มนุษย์แม่ลูกสองจากเมืองซิดนีย์ By Tara Thow

Blockdit 2: เทคนิคเพี้ยนๆที่เปลี่ยนชีวิตได้จริง by Tara Thow

Blogspot: tarathow.blogspot.com

Tiktok: @tarathow

ติดต่องาน: ไลน์ไอดี tara.thow








18 กุมภาพันธ์ 2565

จากศูนย์ถึงล้าน ต้องคว้าไว้ทุกโอกาส

ทาร่าเชื่อว่าหลายคนอยากประสบความสำเร็จคว้าเงินล้านไวๆ ส่วนคนที่ได้เงินล้านมาแล้วก็อยากจะไปให้ถึงหลัก สิบล้าน ร้อยล้าน พันล้าน วันนี้ทาร่าไปเจอเรื่องที่นักธุรกิจระดับพันล้านเค้าแชร์ให้ฟังค่ะ จากศูนย์ถึงล้าน ต้องคว้าไว้ทุกโอกาส แต่หลังจากนั้นคุณต้องโฟกัสไปที่เรื่องเดียวเท่านั้น นี้เป็นเรื่องจริงที่นักธุรกิจระดับโลกทุกคนเค้าทำกัน มันทำได้จริง และมันก็ความลับที่ทำให้พวกเค้าก้าวผ่านหลักล้านไปสู่หลักสิบล้าน ร้อยล้าน พันล้านกันค่ะ 😎


Credit : Pixabay

ทาร่าไปเจอข้อคิดนี้มาจาก Peng Joon หนุ่มนักธุรกิจชาวมาเลเซีย เค้าคนนี้สร้างเงินล้านจากความหลงใหลค่ะ เค้าเป็นนักธุรกิจออนไลน์ ที่เริ่มจากเป็นเด็กติดเกมส์ มองเห็นโอกาสต่างๆ จากโลกออนไลน์ และจับเงินล้านได้ในเวลาอันรวดเร็ว


ชายหนุ่มคนนี้เคยขึ้นเวทีระดับระดับโลก เวทีเดียวกับ Robert Kiyosaki, Rechard Branson, Tony Robbins ไลฟ์โค้ชคนดัง 


เรื่องนี้ Peng Joon เล่าให้ฟังว่าเค้าไปเข้า Mastermind ของ Russell Brunson ซึ่งคนที่เข้าร่วมเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จระดับโลกทั้งนั้น แต่ละคนทำเงินในแต่ละปีได้ร้อยล้าน พันล้าน งานนี้เค้าเจอกันปีละ 4 ครั้ง ครั้งละ 3 วัน แล้วมีค่าสมาชิกปีละ 50,000 USD คิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,500,000 บาท !!!! 😮


สิ่งที่ Peng Joon ได้เรียนรู้จากการไปเจอนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จกลุ่มนี้ คือ “จาก 0 ถึง 1,000,000 เราต้องรับทุกโอกาสที่เข้ามาตรงหน้าเรา”


  
Peng Joon on FB

บางคนคิดว่าจะบ้าหรอ เราจะรับทุกโอกาสได้ยังไง ถ้ามันเป็นโอกาสที่เราคิดว่าทำไม่ได้ เราไม่ถนัดล่ะ Peng Joon บอกว่า… ตอบรับมาก่อน แล้วค่อยมาหาทางทีหลัง!! ทุกสิ่งที่เข้ามาในชีวิตจะสอนอะไรบางอย่างให้เราเสมอ สมมุติเราทำโครงการนี้ เราอาจไม่ได้เป็นเงินทอง ชื่อเสียง กลับมาแต่ สุดท้ายเราจะได้เรียนรู้ ทั้งเรียนรู้จากโอกาสที่ได้มา และเรียนรู้ถึงศักยภาพ/ ความถนัด/ ความหลงใหลของตัวเองด้วย



สิ่งนี้มันใช่หรือไม่ใช่ 👈 เป็นคำตอบที่เราจะได้จากการที่เราให้โอกาสตัวเองค่ะ



ระหว่างที่เราค้นหาตัวเอง ไม่ว่าเจออะไรเข้า เราถือคติคว้าไว้ให้หมดก่อน แต่หลังจากที่คุณทำเงินได้ถึง $1,000,000 แล้ว (คุณอาจจะเปลี่ยนเป็นสกุลเงินไทยได้ค่ะ) คุณต้องฝึกที่จะปฏิเสธโอกาสอื่นให้หมด แล้วโฟกัสกับสิ่งที่คุณกำลังทำตรงหน้าให้ดีที่สุด เพราะอย่าลืมว่าธุรกิจที่เกินหลักล้านไปแล้ว มันต้องพิสูจน์ตัวเองในระดับนึงแล้วว่ามันสำเร็จ และที่สำคัญ คือ สิ่งนี้แหละมันเหมาะกับเรา!! 💥


อย่าลืมว่าการที่เราทำให้ธุรกิจเติบโตไปถึงระดับสิบล้าน ร้อยล้าน พันล้านได้ เราต้องใช้แรงกาย แรงใจ พลังงาน พลังเงิน ทรัพยากรบุคคล และทุกสิ่งที่เรามีอย่างเพื่อทำให้มันโต ในการที่เราเจอธุรกิจหรื สิ่งที่เหมาะกับเราแล้วแต่เรายังอยากได้นู้น นี้ นั่น ไปเรื่อยๆ เค้าบอกว่าสิ่งเหล่านั้นทำให้เราไขว้เขวและดึงดูดความสนใจของเราออกไป 


ทาร่าชอบเรื่องนี้มากๆ เพราะมันช่วยเปิดโลกทัศน์ให้คนทำธุรกิจเล็กๆ ว่าวิธีการที่พาเราจาก A ไปถึง B ได้ บางทีเราก็จะเอามันมาใช้เพื่อพยายามไปต่อจาก B ไป C // หรือ C ไป D แต่ก็ต้องแปลกใจที่มันไม่เวิร์ค!!! 😩


      Credit : Pixabay


ถ้าคุณ scale ธุรกิจมาถึงระดับนึงแล้ว อย่ากลัวที่จะปฏิเสธโอกาสอื่นๆ ค่ะ อย่าใช้สูตรเดิมๆ อย่าคว้าไว้ทุกโอกาส แต่เราต้องหัดที่จะปฏิเสธโอกาสดีๆ ตรงหน้าด้วย มันอาจจะฟังดูประหลาดนิดนึง ทำไมต้องปฏิเสธโอกาสดีๆ ด้วยล่ะ?? เพราะพลังและเวลาของเรามีจำกัด เราไม่สามารถไล่จับกระต่าย 2 ตัวได้พร้อมกัน ถ้าเล็งแล้วว่าตัวไหนมันอ้วนจ้ำม่ำน่าฟัดกว่าตัวอื่น ก็โฟกัสไปที่ตัวนั้นแล้วไล่จับมันแค่ตัวเดียว แบบนี้เราถึงจะมีโอกาสจับมันได้


นี่เป็นอีกหนึ่งข้อคิดที่ ทาร่าคิดว่าทุกคนนำไปปรับใช้ได้ค่ะ นอกเหนือจาก Vision Board ที่ทาร่าลงมือศึกษา ปฎิบัติจริง ช่วยเปลี่ยนชีวิตจากคนที่ทำ 5 งาน เดี๋ยวนี้ธุรกิจหลักใช้เวลาแค่อาทิตย์ละ 5 ชั่วโมงเท่านั้นค่ะ 


ทาร่าอยากให้ทุกคนได้อ่านจริงๆ ค่ะ สรุปมาให้อ่านง่าย จบได้ภายใน 2 ชั่วโมง และที่สำคัญ… ได้ผล 1000% เชิญไปตำกันได้ตามช่องทางต่อไปนี้เลยค่ะ


📙📙📙

 

หนังสือ "Power of Vision Board เปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ" โดย Tara Thow

 

แบบเล่มที่ Se-ed https://bit.ly/3mJ7fNl

E-book ที่ Meb: https://bit.ly/3Bljwh0

E-book ที่ Ookbee: https://bit.ly/3Bn43Nj

 

ช่องทางอื่นๆ ในการติดตามทาร่า:

 

Facebook: https://www.facebook.com/pagetarathow 

Youtube: https://www.youtube.com/c/TaraThow 

IG: https://www.instagram.com/tarathow/ 

Blockdit 1: https://www.blockdit.com/tarathow1 

Blockdit 2: https://www.blockdit.com/tarathow2 

Blogspot: https://tarathow.blogspot.com/ 

Tiktok: https://www.tiktok.com/@tarathow 

ติดต่องาน: ไลน์ไอดี tara.thow






3 ข้อง่าย ๆ ทวงเงินยังไงให้ได้คืนและไม่ผิดใจกัน

ทาร่าเชื่อว่าทุกคนเคยประสบปัญหานี้ค่ะ มีคนติดเงินแต่เราไม่กล้าทวง ด้วยความที่เราก็ขี้เกรงใจ มันก็ยังไงๆ อยู่ ทาร่าเลยไปค้นคว้ามาค่ะว่าอยากได้เงินคืนต้องทวงยังไง (และที่สำคัญ เอาไปลองใช้มาแล้ว ได้ผลด้วยค่ะ!!) 


ตื่นเต้นเลยยย… มาค่ะ วันนี้ทาร่าจะมาแชร์กฎเหล็ก 3 ข้อในการทวงเงินคู่ค้า (หรือเพื่อน หรือครอบครัว) เพื่อนๆ ปฏิบัติตามคู่มือนี้ รับรองได้เงินคืนและไม่ผิดใจกันแน่นอนค่ะ


Credit : asktheidiots

1. ทักทายลูกหนี้ด้วยความสุภาพ แสดงความเป็นกันเอง ไม่ห่างเหิน


ทักทายเค้าให้เหมือนกับที่เราคุยปกติ เหมือนวันที่เราไปขายของ หรือ เหมือนวันที่เค้ายังไม่ยืมเงินเราค่ะ ไม่ว่าจะเจอเค้าในรูปแบบไหน เจอกันตัวต่อตัว โทรศัพท์ แชท ให้เราทักทาย สอบถามสารทุกข์สุกดิบ (แต่อย่านาน) เพราะคนเราทุกวันนี้สมาธิสั้นค่ะ เข้าสเตปที่สองกัน 


2. เข้าประเด็น (ทวงเงิน) เลย


เราทักทายเค้าเป็น ‘พิธี’ แล้ว ในยุคนี้ละทิ้ง ‘รีตอง’ ไปได้เลยค่ะ เอาแค่พอกรุบ ให้เค้ารู้ว่าเรายังมีมารยาทนะ ต่อมา ไม่ต้องอ้อมค้อม ไม่ต้องถาม ดิน ฟ้า อากาศ นอกเรื่องมากมาย ลองนึกดูว่าเราได้รับอีเมลที่มีเนื้อหาประมาณ 2-3 หน้าคุณคิดว่าคุณจะอ่านมันไหม คำตอบคือ Unread ไว้ก่อน ค่อยกลับมา อ่านทีหลัง หรือเปิดมา เจอข้อความยาว ๆ เห็นแล้วเหนื่อย ท้อแท้ใจ คนเค้าก็ไม่อ่านกันค่ะ


แต่สมมุติว่าเป็นอีเมลแค่ 2 - 3 บรรทัด โอเค แบบนี้ค่อยน่าอ่านหน่อย เพราะสัญชาตญาณ คนเราจะบอกว่า เป็นเรื่องสั้น ๆ เวลาแป๊ปเดียว แถมถ้าในข้อความที่เราส่งไปเยอะๆ มีแต่ น้ำ (ข้นคลั่ก ๆ ) ไม่มีเนื้อเลย อ่านไปอ่านมาเค้าอาจหลงประเด็นได้ แถมอาจจะลืมว่า เราต้องการสื่อความหมายอะไรกันแน่



3. อย่าโบ้ยความผิดให้ลูกหนี้


เวลาที่เราทวงเงินให้เราตีมึนไว้เยอะๆ เราควรทวงให้มันดูกึ่งๆ กลางๆ ประมาณว่ามีความผิดพลาดตรงไหนสักที่นึงอาจเป็น Accident, Mistake, Error เป็นความผิดพลาดทางเทคโนโลยีใดๆ แต่ไม่ได้เป็นความผิดเค้าแน่ๆ (คนมีเครดิตอย่างเค้านะเหรอจะเบี้ยวเรา?? ไม่มีท้าง!!! เสียงสูงปรี๊ด) เหมือนต้องเป็นความผิดพลาดที่เกิดมาจากการสื่อสารระหว่างเรากับเค้าแน่ๆ


เช่น ฉันขอโทษด้วย ฉันหาอีเมล์ที่เธอส่งหลักฐานโอนเงินไม่เจอรบกวนเธอ ช่วยส่งให้ฉันอีกครั้งนึงได้ไหม (หาอีเมลไม่เจอ แต่จำได้ว่าเธอจ่ายแล้ว ต้องใช่แน่ๆ เธอต้องจ่ายแล้วแน่ๆ)


หรือ ฉันสังเกตได้ว่าบางทีอีเมล์ที่มีหัวข้อสั้นๆ มักจะไปตกอยู่ใน Junkmail หรือใน Spam ฉันเลยอยากเช็คกับคุณอีกครั้งนึงว่าคุณได้รับอีเมลฉบับนี้ของฉันมั้ย รบกวนคุณช่วยตอบมาหน่อยนะคะว่าจะจ่ายได้วันไหน ฉันจะได้บริหารฝ่ายจัดซื้อของฉันถูก (สมมุติว่าเค้าซื้อของกับเรา เค้าก็ต้องรู้สิว่าเราก็ต้องมีต้นทุนเหมือนกัน)



หรืออีก ฉันส่งใบแจ้งหนี้ใบเรียกเก็บเงินไปเมื่อวันที่ xxxx ไม่ทราบว่าคุณมีข้อสงสัยตรงไหนรึเปล่าคะ คุณสามารถถามฉันได้ตลอดเลยนะคะ (ดูเป็นห่วงเป็นใย กลัวรายละเอียดไม่ครบ) และฉันรบกวนขอทราบกำหนดการด้วยว่าคุณจะจ่ายให้เมื่อไหร่



—-------


Credit : Pixabay

ทาร่าเคยใช้วิธีนี้แล้วได้ผลเลยค่ะ ครั้งนึงมีลูกค้าที่ทาร่าส่งสินค้าให้ก่อน จนเวลาผ่านไปเนิ่นนานเค้าก็ยังไม่จ่ายเงินให้ทาร่าซักที ทาร่าเคยทวงไปแล้ว 2 ครั้ง แต่เค้าก็เงียบไป จนกระทั่งทำตามสูตรข้างบนนี้และส่งข้อความไปว่า


“สวัสดีค่ะ คุณ…. ฉันขอตรวจสอบนิดนึงว่าคุณได้จ่ายค่า xxx หรือยัง ฉันน่าจะผิดพลาดตรงไหนสักที่นึงแน่ๆ เลยหาใบเสร็จโอนเงินของคุณไม่เจอ คุณพอจำได้ไหมว่าคุณจ่ายมาวันไหน แล้วก็ลงชื่อ”


สั้นๆ ได้ใจความ รวมกันไม่ถึง 5 บรรทัด แล้วก็ได้ผลทันทีเลยค่ะ!!! อีก 12 นาทีต่อมา ลูกค้าตอบกลับมาว่า “เดี๋ยวผมจ่ายให้เดี๋ยวนี้เลยครับ”


อ๊อยยยย… นี่ก็หลงเครียด หลงเกรงใจอยู่ตั้งนาน เดี๋ยวเค้าจะหาว่าเรางกรึเปล่า? บอกครั้งเดียวก็พอแล้วมั้ย ทำไมต้องทวงอีก?? หรือถ้ามีเงินก็จ่ายให้แล้วมั้ย ที่เงียบไปนี่เพราะผมหมุนไม่ทันเว้ย!!! 👈 อันนี้คือสิ่งที่ทาร่าคิดนะ 


แต่สิ่งที่เค้าอธิบายมาพร้อมกับหลักฐานการโอนเงิน คือ


“ขอโทษครับ ผมได้รับข้อความคุณเวลาทำงาน คิดว่าจะกลับมาจ่ายที่บ้าน แต่พอกลับมาถึงบ้านแล้วก็ลืมไปเลย ผมขอโทษจริงๆ ที่ต้องให้คุณทวงตั้ง 2 รอบ”


อ๋อยยย…. ทาร่าตอบกลับไปสวยๆ ว่า “ไม่เป็นไรเลยค่ะ” พร้อมด้วยอิโมคอนหน้ายิ้มไปหนึ่งกรุบ (ทั้งที่ในความเป็นจริงอยากจะเคาะกะโหลกตัวเองเหลือเกิน แล้วก็เครียดอยู่ได้ตั้งนาน ส่งของไปแล้วแต่ยังไม่ได้เงิน แกมีหน้าที่ต้องทวงก็ทวงไปสิ จะไปเกรงใจเค้าทำไม !??!?!


ทาร่าเชื่อว่าคงมีทั้งยุ่งจนลืมไม่ได้โอนเงินให้เราจริง ๆ หรือคนที่ไม่อยากคืนให้เราก็มี (พวกเหนียวหนี้) หรือพวกที่ชักหน้าไม่ถึงหลังก็น่าจะมีเหมือนกัน (ไม่มี ไม่หนี แต่ยังจ่ายตอนนี้ไม่ได้) แต่ใด ๆ ก็คือ เงินเป็นของเรา ฉะนั้นเราก็มีสิทธิทวง แต่ทวงยังไงให้มิตรภาพไม่สะบั้น ทำยังไงให้เวลาเจอกันบนถนนแล้วยังทักทายได้ เพราะเรื่องเงินไม่เข้าใครออกใครเนอะ 


🌵🌵🌵🌵🌵


นอกจากเทคนิคการทวงเงินให้ได้เงินแบบเนียนๆ แล้ว ทาร่าก็ยังมีอีกเทคนิคนึงที่ใช้มาตลอด ใช้มาตั้งแต่โสดจนลูกสอง มันชื่อว่า “Vision Board” ค่ะ อันนี้ไม่ใช่เทคนิคการออกกำลังกายนะคะ เป็นเทคนิคการฝึกใช้พลังจินตนาการภาพ เพื่อดึงดูดให้เราได้ในสิ่งที่เราต้องการ ให้ชีวิตของเราเป็นไปในแบบที่เราต้องการจริงๆ เล่มนี้ทาร่าตั้งใจเขียนจริงๆ รวบรวมข้อมูลจากทุกแหล่งที่สามารถจะหามาได้ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เอามาตกตะกอนให้อ่านง่ายๆ จบได้ภายใน 2 ชั่วโมง และที่สำคัญ 👉 ได้ผล 1000% 


📙📙📙

 

หนังสือ "Power of Vision Board เปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ" โดย Tara Thow

 

แบบเล่มที่ Se-ed https://bit.ly/3mJ7fNl

E-book ที่ Meb: https://bit.ly/3Bljwh0

E-book ที่ Ookbee: https://bit.ly/3Bn43Nj

 

ช่องทางอื่นๆ ในการติดตามทาร่า:

 

Facebook: https://www.facebook.com/pagetarathow 

Youtube: https://www.youtube.com/c/TaraThow 

IG: https://www.instagram.com/tarathow/ 

Blockdit 1: https://www.blockdit.com/tarathow1 

Blockdit 2: https://www.blockdit.com/tarathow2 

Blogspot: https://tarathow.blogspot.com/ 

Tiktok: https://www.tiktok.com/@tarathow 

ติดต่องาน: ไลน์ไอดี tara.thow






💓 แนะนำตัวอย่างเป็นทางการค่ะ 💓

😎 ชื่อภาษาไทยจริงๆ ของเราคือ "ตุล" นะ (พี่สาวเกิดเดือนพฤศจิกา แล้วป่ะป๊าลืมมา 2 ปีซ้อน พอมีเรา แม่เลยให้ชื่อ "ตุล" ละกัน.. ถึงจะจำวันไม่ได้ แต่ป่ะป๊าต้องจำได้แน่ๆ ว่าลูกคนนี้เกิดเดือนตุลาคม 👻)

😎 ส่วน "Tara Thow" อ่านว่า "ทาร่า โถว" เป็นชื่อภาษาอังกฤษ เขียนให้ง่ายๆ ย่อมาจาก ธรพร โถวรุ่งเรือง ค่ะ

😎 เราเป็นมนุษย์แม่ลูกสอง อยู่ที่ซิดนีย์ ลูกชายคนโตหล่อมาก ลูกสาวคนเล็กก็น่ารักมากค่ะ 😁

😎 เราชอบไวน์แดง ชอบฟังเพลง ชอบร้องเพลง (แต่เพี้ยน ตอนนี้ก็เรียนร้องเพลงกับเปียโนอยู่ด้วย) ชอบดูละครไทย เมื่อก่อนชอบเดินทาง เดี๋ยวนี้ชอบอยู่บ้าน เพิ่งเริ่มอ่านนิยาย แล้วก็กำลังหัดเขียนนิยายอยู่ด้วย

😎 ธุรกิจหลักของเราคือ โรงเรียนสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติค่ะ ทำตั้งแต่ขาดทุนปีละ 7 หลัก จนเดี๋ยวนี้มีรายได้ปีละ 7 หลัก แถมทำงานน้อยมาก แชร์ไว้ในนี้เยอะเลยค่ะ 😍

😎 ธุรกิจใหม่ คือ สำนักพิมพ์เล็กๆ เพิ่งเริ่มปี 2022 นี่เองค่ะ กำลังงมทางอยู่เลยค่ะ จะพยายามแวะมาเล่าในนี้เหมือนกันนะคะ เรียนรู้ไปด้วยกันเนอะ เราว่า..... อ่านเรื่องของคนสำเร็จก็ดี แต่อ่านเรื่องของเพื่อนที่กำลังงมทางอยู่เหมือนกันก็เป็นกำลังใจได้ไม่แพ้กัน 😃

😎 เราเป็นเด็กเรียนค่ะ ฟาดมาหลายศาสตร์ หลายแขนงจนลิสต์ไม่หมด เมื่อก่อนจะเน้นเรื่องการเงินการลงทุนซะเยอะหน่อย แต่เดี๋ยวนี้เน้นเรื่องสมดุลชีวิต พยายามบาล้านซ์ชีวิตระหว่าง สุขภาพ งาน เงิน ครอบครัว ศาสนา สังคม พัฒนาตัวเอง โดยมี "ความสุข" เป็นจุดเชื่อมต่อทุกมิติของชีวิตเข้าด้วยกัน

😎 ด้วยวัยที่ผ่านอะไรมาเยอะแยะ จนตอนนี้ก็เกือบจะเข้าข่าย "ลัทธิสุขนิยม" แล้วค่ะ อะไรที่ไม่สุข ก็ไม่ค่อยอยากทำแล้วอ่ะ ชีวิตนี้มันสั้นและเปราะบางเกินกว่าจะทนอยู่กับอะไรที่ "ไม่ใช่" เนอะ


💖 ตอนเริ่มทำเพจนี้ เราตั้งใจว่าจะแชร์ความรู้ต่างๆ ที่เราได้เรียน / อ่าน / ฟังมา เป็นเรื่องที่เราว้าวแล้วอยากแชร์กับคนอื่นอ่ะค่ะ ซึ่งก็จะมีทั้งเรื่องงาน เงิน สุขภาพ ความรัก ครอบครัว สังคม ศาสนา พัฒนาตัวเอง ปนๆ กันไป

💘 เพิ่มเติมมาในปี 2022 คือ เริ่มมีสินค้า บริการ และคอร์สต่างๆ เพิ่มมาแล้วนะคะ ขอฝากร้านค้าของ Tara Thow ไว้ในอ้อมใจเพื่อนๆ ทุกคนด้วยนะคะ 😍

💖 ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะคะ ทั้งคนที่รู้จักกันจริงๆ และคนที่ผ่านไปผ่านมาก็แวะมาทำความรู้จักกันได้นะคะ (เราอาจจะไม่ได้ตอบเองทั้งหมดนะคะ มีแอดมินช่วยตอบให้ด้วยค่ะ 😚

🙌 เมื่อต้นปีได้ประกาศเป้าปี 2022 อย่างกล้าหาญไปแล้ว 😅 ทาร่าจะโพสอย่างสม่ำเสมอใน FB, IG, YT, BD, BW, TT แต่ละแพลตฟอร์มก็จะมีคอนเท้นต์ (ที่ตั้งใจไว้) ตามนี้ค่ะ

😀 ใครสะดวกแพลตฟอร์มไหน ก็ฝากตามไปให้กำลังใจหน่อยนะคะ 😀 Facebook: https://www.facebook.com/pagetarathow


(ยังหาจุดยืนไม่ได้ ลงๆไปก่อน ซ้ำกับ youtube บ้าง ซ้ำกับ IG ด้วย ในส่วนของ story ก็ซ้ำกับ Tiktok นะคะ มันคือจับฉ่ายที่แท้ทรู 😂)

👉 Youtube

(ข้อมูลใหม่ที่ทาร่าว้าวจนอยากเก็บไว้ในสารนุกรมทาร่า เพื่อการอ้างอิงในอนาคตและส่งต่อให้ลูกหลาน เลยเอามาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังด้วยเลยละกัน 😁)

👉 IG

(คำคมโดนใจรายวัน วันละ 2 รอบ ให้กำลังใจกันไปตลอดทางโนะ ดีอยู่แล้วก็ดีได้อีกค่ะ ✌ ในส่วนของ story ก็ซ้ำกับ Tiktok นะคะ คลิปสะกดจิต 30 วินาที แค่ดูเฉยๆ เหมือนที่เราดูรูปเด็กน่ารักๆ เวลาท้องอ่ะค่ะ 😊)

👉 Blockdit 1: มนุษย์แม่ลูกสองจากเมืองซิดนีย์ By Tara Thow
(เรื่องเล่าเม้าท์มอยตามประสามนุษย์แม่บ้าง มนุษย์เมียบ้าง มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง 😝)

👉 Blockdit 2: เทคนิคเพี้ยนๆที่เปลี่ยนชีวิตได้จริง by Tara Thow
(รวมสารพัดตัวช่วย เครื่องมือต่างๆ และเรื่องแปลกที่ทาร่าเจอมา 💘)

👉 Blogspot
(ในเบื้องต้นคือการถอดคลิปยูทูปมาเป็นบทความ แต่ถ้าฟิตจัด อาจจะเขียนบทความอื่นๆ เพิ่มด้วย 😎)


👉 TikTok

(คลิปสะกดจิต 30 วินาที วนๆ กันไปทั้งเรื่องงาน เงิน สุขภาพ ความรัก จิตวิญญาณ การเติบโต สังคม และความสุข วิธีใช้ง่ายๆ แค่กดติดตามแล้วดูคลิปทุกวัน อย่างน้อยวันละ 1 รอบ 😉)

👉 สินค้า บริการ และคอร์สออนไลน์: เอเวรี่ติงจิงกาเบล
(สุดยอดเครื่องมือที่ได้เรียนมาตลอดสิบกว่าปี ทั้งเรื่องพัฒนาตัวเอง ธุรกิจ แล้วก็การตลาด จนตกผลึกมาเป็นของตัวเอง ขายบ้าง ฟรีบ้าง ขอฝากร้านเล็กๆ ของ Tara Thow ไว้ด้วยนะคะ 💕)

👉 รับงานวิทยากร ที่ปรึกษา และโฆษณาด้วยค่ะ ทักไลน์มาได้เลยค่ะ 😚 Line ID: tara.thow

แก้ปวด ตา คอ บ่า ไหล่ หลัง ข้อต่างๆ ด้วยศาสตร์ 1,000 ปีจากเมืองจีน

ใครนั่งหน้าจอคอมนานๆ หลายชั่วโมงแล้วปวดหลังเหมือนทาร่าบ้างคะ ทาร่าเป็นบ่อยเลยค่ะ แล้วก็บ่นกับตัวเอง จนเข้าหูคุณสามีคนจีน ฮีเลยกระซิบว่า (ทำไมต้องกระซิบ คือนางอยากทำให้มันเป็นเรื่องลึกลับค่ะ) 



“ยู!! ไอจะแชร์วิธีที่คนในครอบครัวทำเวลาปวดตา คอ บ่า ไหล่ หลัง ข้อต่างๆ เรียกได้ว่า ปวดอะไรมา แค่ทำวิธีนี้รับรองยูหายแน่นอน”



เอาสิ อะไรของเค้า แต่เราก็ลองฟังดู ทำตามก็ไม่เสียหายเนอะ แถมนางกระซิบมาว่านี่เป็นวิธีแก้อาหารปวดต่างๆ ที่คนจีนทำต่อๆ กันมา มากกว่าพันปี โอ้โห โม้ปะเนี่ย ลองดูค่ะ 



ป้าต้วนจิ่น (Ba Duan Jin) เป็นอีกหนึ่งศาสตร์ย่อยๆ ของจี้กง ที่มีหลายสายเลยค่ะ ทั้งสายศาสนา กังฟู หรือ ฝึกวิทยายุทธ เส้าหลิน ที่เราคุ้นเคยกันนี่แหละค่ะ แต่สำหรับที่ทาร่าพูดถึงในวันนี้ทำกันเป็นสายปรับสมดุลร่างกายเอาไว้ดูแลตัวเองนั่นเองค่ะ 





เทคนิคนี้เหมาะมากๆ กับมนุษย์หน้าจออย่างเรา เวลาเราใช้สายตาทำงานเยอะๆ แล้วเรา เมื่อยตา

หรือ เรานั่งนานๆ พิมพ์นานๆ หรือเดินนานๆ นอนนานๆ ยืนนานๆ แล้วเราเมื่อย เหนื่อย

ท่านี้ท่าเดียวสามารถจัด Balance ปรับสมดุลร่างกายได้หมดเลยค่ะ



อันนี้เป็นคลิปประกอบค่ะ



วิธีการง่ายๆ เพียงแค่

  1. ยืนตรงๆ 

  2. หันหน้าไปด้านขวาเพื่อมองส้นเท้าซ้าย

  3. หันหน้าไปด้านซ้ายเพื่อมองส้นเท้าขวา 

  4. ทำแบบนี้วันละ 4 ครั้ง


(ถ้ามองเห็นส้นเท้าฝั่งตรงข้ามได้จะดีมาก แต่ถ้าไม่เห็นส้นเท้าก็เปลี่ยนมามอง ขาล่าง ขาบน สะโพก แล้วแต่ว่าเราสามารถหันได้แค่ไหน)


สำหรับชาวเราที่ไม่ค่อยมีเวลาว่างไปออกกำลังกายเนอะ แต่ขอแค่เรามีเวลาให้ร่างกายสักวันละ 10 นาที ลองหากิจกรรมการออกกำลังกายที่เราถนัด หรือ ชอบ เพื่อให้ร่างกายได้ขยับเคลื่อนไหวบ้าง ไม่ใช่ว่าเพื่อสู้โรค อย่างเดียวแต่เราต้องสู้กับโลกใบนี้ด้วยน้าาา





สำหรับเพื่อนๆ ที่เอาไปลองทำกันดู ได้ผลยังไง กลับมาคอมเม้นต์หน่อยนะคะ ทาร่ารออ่านอยู่เลยค่ะ 🥰


ปล. ศาสตร์การออกกำลังกายที่เราเห็นอาม่า อากง ออกกำลังกายกันเนี่ย เค้าเรียกว่า “ชี่กง” มีมากกว่า 3,000 รูปแบบ แต่ละรูปแบบก็มีความยากง่ายและ ประสิทธิภาพแตกต่างกันไป แต่สำคัญคือสามารถป้องกันที่ต้นเหตุก่อนการเกิดโรคได้อย่างดีเลยค่ะ เอาเป็นว่าลองนำกลับไปปรับใช้กันได้นะคะ 


และก็ยังมีอีกเทคนิคนึงที่ทาร่าใช้มาตลอด ใช้มาตั้งแต่โสดจนลูกสอง มันชื่อว่า “Vision Board” ค่ะ อันนี้ไม่ใช่เทคนิคการออกกำลังกายนะคะ เป็นเทคนิคการฝึกใช้พลังจินตนาการภาพ เพื่อดึงดูดให้เราได้ในสิ่งที่เราต้องการ ให้ชีวิตของเราเป็นไปในแบบที่เราต้องการจริงๆ เล่มนี้ทาร่าตั้งใจเขียนจริงๆ รวบรวมข้อมูลจากทุกแหล่งที่สามารถจะหามาได้ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เอามาตกตะกอนให้อ่านง่ายๆ จบได้ภายใน 2 ชั่วโมง และที่สำคัญ 👉 ได้ผล 1000% 


Credit: Pixabay, wikipedia.org/wiki/Baduanjin_qigong

📙📙📙

 

หนังสือ "Power of Vision Board เปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ" โดย Tara Thow

 

แบบเล่มที่ Se-ed https://bit.ly/3mJ7fNl

E-book ที่ Meb: https://bit.ly/3Bljwh0

E-book ที่ Ookbee: https://bit.ly/3Bn43Nj

 

ช่องทางอื่นๆ ในการติดตามทาร่า:

 

Facebook: https://www.facebook.com/pagetarathow 

Youtube: https://www.youtube.com/c/TaraThow 

IG: https://www.instagram.com/tarathow/ 

Blockdit 1: https://www.blockdit.com/tarathow1 

Blockdit 2: https://www.blockdit.com/tarathow2 

Blogspot: https://tarathow.blogspot.com/ 

Tiktok: https://www.tiktok.com/@tarathow 

ติดต่องาน: ไลน์ไอดี tara.thow