Kerwin Rae เป็น Business Coach อันดับต้น ๆ ในออสเตรเลีย บริษัทของเค้าดูแลนักธุรกิจทั้งระดับเล็ก ๆ SME จนถึงธุรกิจใหญ่ ๆ ที่ให้คำปรึกษา และเป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจให้องค์กรใหญ่รวมไปถึงเรื่องการสร้างทีมด้วย
แต่บทเรียนทางการตลาด (marketing) ข้อนี้เป็นอันที่เค้าเองก็ได้มาด้วยความบังเอิญ แบบบังเอิญจริงๆ นะ
เรื่องมันมีอยู่ว่า…. ปีที่แล้วเค้าเป็นโรคหัวใจค่ะ!! เป็นหนักจนถึงขั้นเป็นตายเท่ากัน ต้องผ่าตัด และเป็นเวลาเดียวกับที่ภรรยาตั้งท้องลูกคนที่ 2 จนทำให้เค้าไม่สามารถทำงานได้เหมือนเดิม ตอนนั้น Kerwin Rae มีทางเลือก 3 อย่าง คือ
ขายธุรกิจต่อ ให้คนอื่น Take Over มาดูแลกิจการต่อ
ปิดบริษัทไปเลยเพราะเขาเองก็มีทรัพย์สินมากพอที่จะใช้ชีวิตอยู่ได้โดยที่ไม่ต้องทำงานแล้ว ในเมื่อ Kerwin Rae ทำงานไม่ได้ และเขาก็ไม่แน่ใจว่าจะมีใครดูแลลูกค้าของเค้าได้ดีเท่าเค้า งั้นก็คืนเงินลูกค้าแล้วปิดบริษัทไปเลยละกัน
ทำงานทุกอย่างเหมือนเดิม แค่เอาตัวเองออกจากธุรกิจไป และปล่อยให้ทีมงานทำกันเองโดยที่ไม่มีเค้า
ทายซิคะว่าเค้าเลือกข้อไหน???!?!?!?
ทายต่อซิคะว่าบริษัทของเค้าจะเป็นยังไงเมื่อไม่มี Kerwin Rae เป็นหัวเรือใหญ่ และคอยนำทางทุกคนอีกต่อไป
ทาร่าว่าเรื่องนี้น่าสนใจมากเลยนะคะ เพราะงานที่ออกมามันยังดีเหมือนเดิม!!! ทาร่ายืนยันการันตีด้วยตัวเองเลย เพราะทาร่ามีโอกาสไปฟังสัมมนาออนไลน์ของ Kerwin Rae ทั้ง 2 แบบมาแล้ว
ตอนที่ Kerwin Rae มาสอนเอง มันก็จะได้ฟีลแบบผู้บริหาร มองภาพใหญ่ ภาพกว้าง เน้นปลุกพลัง สร้างแรงบันดาลใจ ส่วนสัมนาที่เค้าไม่ได้สอน แต่ตัดมาเป็นคลิปสั้นๆ ครั้งละ 1 ชั่วโมง นอกนั้นก็ให้พนักงานของเค้ามาสอนแทน เอ้ย!! มันก็ได้ฟีลคนทำงาน ได้เจอปัญหาที่จริงในระดับคนทำงานจริงๆ ได้ฟีลคนสู้ชีวิต ปลุกพลังไปอีกแบบ
ส่วนตัวทาร่าแอบชอบแบบหลังมากกว่านิดนึง เพราะมันดู real ใกล้เคียงกับชีวิตการทำงานในระดับ SME ของทาร่ามากกว่า และเรื่องนึงที่ทาร่าชอบมากๆๆๆๆ และจำไปปรับใช้ในธุรกิจ/งานของตัวเองเลย คือ เรื่องของการทำ marketing ค่ะ
มีอยู่ช่วงนึงที่ทีมงานของ Kerwin Rae เม้าท์เจ้านายของเค้าว่า… เมื่อก่อนพอทำอะไรเสร็จ กว่าจะได้โพสต์ออกไป ต้องรอเค้าตรวจแล้ว ตรวจอีก.. แก้แล้ว แก้อีก… แต่พอออกไปก็ไม่เห็นว่ามันจะปังทุกอัน บางอันก็กลางๆ บางอันแป้กเลยก็มีเหมือนกัน
ส่วนตอนนี้ทีมงานมีสิทธิ์ตัดสินใจกันเองมากขึ้น ทำเสร็จปุ๊บ โพสต์ปั๊บ แล้วปล่อยให้ตลาด/ลูกค้าเป็นคนฟี๊ดแบ็ก ซึ่งแน่นอนว่าคลิป/คอนเท้นต์ที่ทีมงานทำกันเองก็มีทั้งอันที่ปัง อันที่แป้ก แล้วก็อันที่กลาง ๆ เหมือนกับตอนที่มี Kerwin Rae มาคอยกำกับนั่นแหละ
แต่สิ่งที่ต่างกัน คือ เวลาที่ใช้!! เดี๋ยวนี้งานเค้าออกไปเร็วกว่าเดิมเยอะมาก
ทีมงานเลยได้เรียนรู้ว่าการปรับโครงสร้างองค์กรในครั้งนี้ มันทำให้พวกเค้าได้ค้นพบโดยบังเอิญ 2 เคล็ดลับในการทำ marketing ให้เป๊ะปังเว่อวังมากๆ คือ
1. การตลาดไม่ได้มีทฤษฎีตายตัว
เรื่องการตลาดมันอยู่เหนือการคาดการณ์ บาง Campaign ต่อให้เป็น Kerwin Rae มาคิดเอง มันก็มีทั้งอันที่เวิร์คและอันที่ไม่เวิร์ค รวมถึง Campaign ที่ทีมงานคิดกันเอง มันก็มีทั้งที่เวิร์คและไม่เวิร์คเหมือนกัน
2. การทำงานโดยไม่มีบอสนั้น……
ถึงแม้ผลลัพธ์มันจะใกล้เคียงกันมาก แต่ระยะเวลาการทำงานนั้นเร็วกกว่ากันเยอะ และเมื่อทีมงานมีโอกาสตัดสินใจ เห็นผลลัพธ์ และเป็นเจ้าของผลงานนั้นอย่างเต็มที่ แน่นอนว่าพวกเค้าก็ต้องอัพเกรดความรับผิดชอบและสนุกกับงานตรงหน้ามากขึ้นด้วย
ทาร่าคิดว่าเรื่องนี้น่าสนใจมาก ใครที่มีธุรกิจก็ลองเอาไปปรับใช้กันดูนะคะ
ส่วนใครชอบศาสตร์พัฒนาตัวเองแบบรวม ๆ อยากมีชีวิตที่มีสมดุลทั้งเรื่องการงาน การเงิน ความรัก สุขภาพ ธุรกิจ วิทยาศาสตร์ ไสยศาสตร์ การเติบโตทางจิตวิญญาณแบบรวม ๆ สามารถติดตามทาร่าได้ทุกช่องทาง แล้วเราจะเติบโตไปพร้อม ๆ กันนะคะ
💗💗💗💗💗
เกี่ยวกับเรา
Tara Thow อ่านว่า ทาร่า โถว เป็นมนุษย์แม่ลูกสองอยู่ที่ซิดนีย์ สนใจศาสตร์พัฒนาตัวเอง ปรัชญา ธุรกิจ ครอบครัว รักเสียงเพลง ไวน์แดง และนิยาย
#คอร์สธุรกิจออนไลน์เริ่มง่ายไม่ต้องใช้เงินทุน
#หนังสือเปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ
#สอนภาษาไทยให้เด็กๆที่เกิดต่างประเทศ
#อบรมครูสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ
💞 💞💞💞💞
ช่องทางในการติดตามเราจ้าา.. 😘
Facebook: https://www.facebook.com/pagetarathow
IG: tarathow
Youtube: https://www.youtube.com/c/TaraThow
Blockdit 1: มนุษย์แม่ลูกสองจากเมืองซิดนีย์ By Tara Thow
Blockdit 2: จุด by Tara Thow
Twitter: @tarathow
Blogspot: tarathow.blogspot.com
Tiktok: @tarathow
Line: @tarathow
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น