ช่วงนี้ทาร่าชอบฟัง Podcast ของ Dr. Andrew Huberman Lab มากค่ะ เค้าเป็นนักวิทยาศาสตร์สมอง ทำงานอยู่ที่ Stanford School of Medicine และมาเล่าเรื่องวิทยาศาสตร์ที่มันยากๆ ให้กลายเป็นเรื่องง่ายๆ ที่คนทั่วไปสามารถเข้าใจและนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ เรื่องที่ดร.แอนดรูวเล่าเกี่ยวกับสมองของเราในแง่มุมต่างๆ ตั้งแต่ พฤติกรรม ความคิด การเรียนรู้ การทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย การตื่น การหลับ การฝัน อารมณ์โกรธ เศร้า ไปจนถึงเรื่องระบบเผาผลาญ ซึ่งเป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ
มีเรื่องนึงที่ทาร่าชอบมากๆ คือ เรื่องการนอนค่ะ เพราะการนอนกินเวลาถึง 1 ใน 3 ของชีวิตคนเรา คุณหมอทุกคนบนโลกเลยย้ำนักย้ำหนาถึงการนอนหลับว่า เราควรนอนหลับให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายเราพักผ่อน ซ่อมแซมส่วนสึกหรอ มี Growth Hormone ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตในเด็ก ช่วยเพิ่มความสูงและทำให้อวัยวะต่างๆ ขยายขนาดเพื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่
และเรื่องที่ทาร่ารู้สึกว่าน่าสนใจมากๆ เกี่ยวกับการนอนหลับที่ได้ยินมาจาก Podcast ของ Huberman Lab คือ สิ่งที่เกิดขึ้นในสมองของเราระหว่างที่เรานอนหลับค่ะ!!
ในขณะที่เราคิดว่าเราหลับอยู่นั้น จริงๆ แล้วสมองของเราไม่เคยหลับเลย แต่มันกลับกำลังทำงานในอีกหน้าที่นึงอยู่ต่างหาก ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นกับสมองตอนนอนของเราสามารถแบ่งได้เป็น 2 ช่วง คือ ช่วงที่เราหลับลึก กับช่วงที่เราหลับตื้น (ถ้าใครที่ใช้ fitbit หรือ apple watch ในการ track sleeping น่าจะพอนึกภาพออก) ซึ่งจริงๆ แล้วมันสำคัญเท่ากันทั้ง 2 ช่วง (แค่ทำหน้าที่ต่างกัน)
และหน้าที่อย่างนึงที่สำคัญมากๆ ของการหลับลึก คือ การลบข้อมูลที่ไม่จำเป็นออกจากสมองของเราค่ะ
เพื่อนๆ ลองนึกดูนะคะว่าวันนึงเรารับข้อมูลที่ไม่จำเป็นมากี่ร้อยเรื่อง เราจะเก็บทุกอย่างไว้กับเราก็ไม่ได้ ฉะนั้นเวลาที่เราหลับ สมองเราไม่ได้หลับด้วย แต่มันจะทำการจัดระเบียบข้อมูลที่เราได้รับมาทั้งวันเพื่อวิเคราะว่ามีบ้างที่ควรเก็บไว้ และอะไรที่ควรจะลบทิ้ง
แอนดรูวยังเล่าด้วยว่าจริงๆ แล้วการ “ฝันร้าย” นั้นเป็น “เรื่องดี” และมันก็เป็นการทำงานปกติอย่างนึงของสมองเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ที่เลวร้ายของเรา ถ้าเราลองสังเกตุดูว่าทุกครั้งที่เราฝันร้าย มันมักจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการวิ่งหนีหรือต่อสู้ ซึ่งหากมีการปลุกขึ้นมานักวิทยาศาสตร์สามารถสรุปได้ว่ามนุษย์เราจะฝันร้ายเพื่อปลดปล่อยอารมณ์และลบข้อมูลที่ไม่จำเป็นในช่วงหลับลึก และเกิดขึ้นพร้อมๆ กับสิ่งที่เรียกว่า REM (Rapid Eyes Movement)
แล้ว REM หรือ Raid Eyes Movement นี่มันคืออะไร??
มันคือการเคลื่อนที่ไปมาของลูกตาในขณะที่เปลือกตาปิดอยู่ ถ้าเราลองสังเกตุเวลาคนใกล้ตัวหลับ เราจะเห็นว่าทกุๆ 90 นาที (โดยประมาณ) เปลือกตาของเค้าจะมีการสั่นเบาๆ (ซึ่งหากปลุกขึ้นมา ก็มักจะบอกว่ากำลังฝันอยู่)
นอกจากนี้งานวิจัยายังบอกอีกว่า REM sleep นี่แหละเกี่ยวข้องโดยตรงกับการลบข้อมูลที่ไม่จำเป็นออกไป และได้มีการพัฒนามากลายเป็นเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อนำมารักษาคนไข้ที่มีอารมณ์ติดค้าง ไม่สามารถปลดปล่อยหรือลบทิ้งได้ด้วยวิธีธรรมชาติ เช่น คนที่ผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมากๆ ในชีวิต ทั้งอุบัติเหตุ อาชญากรรม โดนข่มขืน หรือการสูญเสียคนรัก/ ของรัก จนไม่สามารถทำใจได้
ทั้งๆ ที่ใจอยากลืม แต่สมองกลับจำ ช่างสวนทางกันอย่างไม่สามารถควบคุมได้
สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ทำเพื่อช่วยเหลือคนเหล่านี้ คือการจำลองการเคลื่อนไหวของลูกตาในขณะที่หลับ แต่ทำตอนตื่น (ในคลินิครักษา) ด้วยกระบวนการที่ชื่อว่า Eye Movement Desensitization and Reprocessing (EMDR) โดยวิธีการคือให้คนไข้พูด (หรือคิด) ถึงเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้น โดยมีนักบำบัดขยับมือไปมาเพื่อแกว่งสายตา หรือพูดง่ายๆ ก็คือการจำลองฝันร้ายขึ้นมาทั้งๆ ที่ไม่ได้หลับ แล้วก็จำลอง REM ขึ้นมาโดยที่ตายังเปิดอยู่นี่แหละ
(ตัวอย่างในคลิปข้างล่าง ช่วงนาทีที่ 20 ค่ะ)
และผลที่ออกมาก็เป็นที่น่าพอใจมากๆ เพราะวิธีนี้สามารถช่วยคนไข้ให้ปลดปล่อย ปล่อยวาง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้
ทาร่าว่าวิธีการรักษาแบบนี้มันน่าทึ่งมากๆ และมันง่ายมากๆ สำหรับใครที่มีเหตุการณ์ไม่ได้รุนแรงขนาดตัวอย่างที่ทาร่าเล่าไว้ ทาร่าคิดว่าเราน่าจะสามารถใช้วิธีการ EMDR เพื่อเยียวยาตัวเอง (หรือเพื่อน) ของเราได้ด้วย ลองดูนะคะ 🤗
สำหรับใครที่ชอบวิทยาศาสตร์สมองแบบง่ายๆ ทาร่าแระนำช่องของ Dr. Andrew Huberman Lab เลยค่ะ ฟังเพลินมาก ส่วนใครที่ชอบศาสตร์พัฒนาตัวเองแบบองค์รวม ทั้งเรื่องการเงิน การงาน ความรัก สุขภาพ สังคม ร่างกาย จิตใจ จิตวิญญาณ ก็ตามทาร่านี่แหละ เพราะทาร่าเองก็ชอบเรื่องพวกนี้เหมือนกัน ถ้าเจออะไรน่าสนใจก็จะมาเล่าต่อแบบนี้ล่ะค่าาาาา
คลิปตัวอย่างการทำ EMDR https://www.youtube.com/watch?v=L6UvKhLYf7w
อ้างอิงเพิ่มเติม https://www.doctorraksa.com/th-TH/blog/posttraumatic-stress-disorder.html
😎😎😎😎😎
เกี่ยวกับเรา
Tara Thow อ่านว่า ทาร่า โถว เป็นมนุษย์แม่ลูกสองอยู่ที่ซิดนีย์ สนใจศาสตร์พัฒนาตัวเอง ปรัชญา ธุรกิจ ครอบครัว รักเสียงเพลง ไวน์แดง และนิยาย
#เวิร์กช็อปกฎแรงดึงดูดสูตรวิทยาศาสตร์สมอง
#คอร์สธุรกิจออนไลน์เริ่มง่ายไม่ต้องใช้เงินทุน
#หนังสือเปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ
#สอนภาษาไทยให้เด็กๆที่เกิดต่างประเทศ
#อบรมครูสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ
💞 💞💞💞💞
ช่องทางในการติดตามเราจ้าา.. 😘
Facebook: https://www.facebook.com/pagetarathow
IG: tarathow
Youtube: https://www.youtube.com/c/TaraThow
Blockdit 1: มนุษย์แม่ลูกสองจากเมืองซิดนีย์ By Tara Thow
Blockdit 2: จุด by Tara Thow
Twitter: @tarathow
Blogspot: tarathow.blogspot.com
Tiktok: @tarathow
Line: @tarathow
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น