ทาร่าอยากมาแชร์ให้เห็นถึงวิธีการสอนเด็กๆ ของประเทศออสเตรเลียค่ะ คือ ลูกชายของทาร่าเอง
ตอนนั้นเรียนอยู่ชั้น ป.3 กำลังจะขึ้น ป.4 เป็นเด็กที่เรียนไม่เก่งเอามากๆ แม่เปิดดูการบ้านลูกทีเราแล้วอยากจะร้องกรี๊ดทุกทีเลยค่ะ
ดีที่โรงเรียนที่ออสเตรเลีย เค้าไม่มีการสอบจัดลำดับ ว่าเด็กคนไหนสอบได้ที่เท่าไหร่เหมือนตอนที่ทาร่าอยู่เมืองไทย ไม่แน่ใจว่าเดี๋ยวนี้ยังมีการจัดลำดับแบบนี้อยู่รึเปล่า ยิ่งโรงเรียน ม. ต้น ของทาร่านี่หนักเลยค่ะ ถึงขนาดเอาคะแนนตอนสอบเข้ามาเรียงลำดับแล้วทำเป็นเลขประจำตัวเลยตั้งแต่ 1 ถึง 52 เลยค่ะ เลขที่ 1 คือคนที่สอบเข้ามาด้วยคะแนนเต็ม ส่วนคนที่ 52 คือคนสุดท้ายในโควต้าห้องคิงส์ (ลำดับถัดไปจะเป็นเลขที่ 1 ของห้องควีนละ) ว่าไปนั่น!!!
โรงเรียนที่นี่เค้ามีการสอบในแต่ละเทอม แต่ไม่ได้บอกคะแนนเด็กกับผู้ปครองค่ะ ในรีพอร์ตจะบอกแค่
🟦 ลูกคุณเข้าใจมากกว่าระดับที่เรียนอยู่
🟩 ลูกคุณเข้าใจตามระดับที่กำลังเรียนอยู่
🟨 ลูกคุณกำลังทำความเข้าใจในระดับที่เรียนอยู่
ซึ่งลูกชายทาร่าคว้า 🟨 มารัวมาก!! ดูแล้วไม่เข้าเกณฑ์เลยซักกะวิชา จนแม่นี่ต๊ะกะใจ แต่พอได้คุยกับเค้าแล้วก็ยิ่งต๊ะกะใจเข้าไปอี๊กกก….
มนุษย์แม่: รีพอร์ตออกมาแบบนี้ ยูโอเคมั้ย
มนุษย์ลูก: โอเคสิ ครูบอกว่าข้อสอบมีไว้วัดระดับความเข้าใจของเด็กๆ คุณครูไม่ได้ต้องการให้เราทำให้ถูกหมด ครูแค่ต้องการให้เราทำอย่างสุดความสามารถ คุณครูจะได้รู้ว่าเราเข้าใจแค่ไหน และเรื่องไหนที่เด็กๆ ไม่เข้าใจกันเยอะๆ ครูจะได้หาวิธีอื่นมาสอนพวกเรา
ป๊าดดดดดดดด…. ทัศนคติช่างดีงาม ราวกับหลุดออกมาจากทุ่งลาเวนเดอร์ แต่แม่ก็ยังไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
มนุษย์แม่: แต่ยูยังไม่เข้าใจเยอะมากเลยนะ
มนุษย์ลูก: ใช่สิ ทุกคนต้องผ่านกระบวนการเรียนรู้ แม่ไม่ต้องเครียด
กราบบบ…. โรงเรียนที่นี่เค้าสอนไว้ดีงามมากๆ ทาร่ากับลูกยังคุยกันอีกหลายประโยคเลยค่ะ พยายามอ้อมไป อ้อมมา เผื่อลูกจะหลุดอะไรออกมาบ้าง แต่ไม่มีเลยจริงๆค่ะ ทุกคำถามที่ถามไป ลูกชายทาร่าตอบกลับมาได้ด้วยทัศนคติที่ดีมาก เช่น
มนุษย์แม่: แล้วเพื่อนๆ ยูเค้าเป็นยังไงกันบ้าง ยูรู้มั้ย
มนุษย์ลูก: ครูบอกว่าเราไม่ต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร เพราะทุกคนก็มีความถนัดเป็นของตัวเอง ถ้าทุกคนเก่งเหมือนกัน เก่งวิชาเดียวกันหมด โลกใบนี้ก็จะน่าเบื่อ
มนุษย์แม่: แล้วยูเคยลอกเพื่อนบ้างมั้ย (สมัยแม่เรียน แม่ลอกเพื่อนตอนสอบด้วยนะ)
มนุษย์ลูก: ไม่ลอก เพราะเพื่อนเค้าก็อาจจะผิดได้เหมือนกัน เราต้องเชื่อตัวเองสิ
ที่โรงเรียนเค้าจะมีแบ่งวิชาเลขออกเป็น 3 กลุ่ม นักเรียนส่วนใหญ่จะนั่งเรียนในคลาสปกติ แต่จะมีนักเรียนบางคนที่เก่งมากๆ ที่ครูจะแยกไปสอนต่างหากในห้อง แล้วก็จะมีนักเรียนอีกกลุ่มที่อ่อนสุดๆ ครูจะแยกออกไปเรียนต่างหากอีกเหมือนกัน
และแน่นอนว่าลูกชายของทาร่าก็อยู่ในกลุ่มหลังสุดอีกเหมือนเดิม
มนุษย์ลูก: ยูโอเคมั้ย? อายเพื่อนมั้ยที่โดนแยกไปเรียนอีกห้องนึง ไม่ได้เรียนคลาสปกติไปพร้อมเพื่อนๆ
มนุษย์ลูก: โอเคสิ ไม่เห็นน่าอายเลย พวกเราแค่มีวิธีการเรียนรู้ต่างจากคนส่วนใหญ่ ครูแยกพวกเรามาเพื่อสอนด้วยวิธีพิเศษที่ตรงกับวิธีการเรียนรู้ของพวกเรา
อื้อหือออ… รักครู รักโรงเรียน รักระบบการศึกษาประเทศนี้มาก 😍
ทำไมเค้าเลือกใช้คำพูดได้ดีงาม อ่อนโยนต่อจิตใจเด็กได้เบอร์นี้ ทาร่ารู้สึกว่าการสอนแบบนี้เด็กๆ จะไม่กดดันและเข้าใจโลกว่า เราไม่ต้องเก่งไปซะทุกเรื่องก็ได้ เพราะอย่างที่คุณครูบอกเลยค่ะ ว่าคนเรามีเรื่องถนัดไม่เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น
และการที่เราได้คะแนนน้อยตอนนี้ ไม่ได้แปลว่าเราไม่เก่ง เราสอบตก หรือเราไม่ฉลาด แต่เราแค่กำลังเรียนรู้ในเรื่องนั้นอยู่ ซึ่งเด็กแต่ละคนมีวิธีการเรียนรู้และใช้ระยะเวลาที่ต่างกัน ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ขอแค่เด็กๆ ยังไปโรงเรียนอย่างมีความสุข และความเชื่อที่ว่าพวกเขาสามารถเรียนรู้ได้ต่างหากที่สำคัญกว่า
ทาร่าเคยเขียนเรื่องการเรียนของเด็กๆ ที่นี่ไว้ใน e-book เล่มเล็ก ที่ลูกชายเป็นคนวาดรูปประกอบให้ เล่มนี้เหมาะกับคุณแม่ที่มีลูกทุกคนเลยค่ะ ไม่ว่าลูกของคุณจะเรียนเก่ง หรือเรียนไม่เก่ง ทัศนคติและวิธีการสอนของโรงเรียนที่ออสเตรเลียจะช่วยเปิดโลกทัศน์ให้กับคนจนต้องร้องว้าว!! แบบที่ทาร่าเองได้เจอมาแล้ว
เชิญตำได้ตามช่องทางข้างล่างนี่เลยค่ะ
หนังสือ "ตอน ไมเคิลเรียนไม่เก่ง" โดย Tara Thow
Ookbee: https://bit.ly/3mYvGGx
💞 ช่องทางในการติดตามทาร่า
Facebook: https://www.facebook.com/pagetarathow
IG: tarathow
Youtube: https://www.youtube.com/c/TaraThow
Blockdit 1: มนุษย์แม่ลูกสองจากเมืองซิดนีย์ By Tara Thow
Blockdit 2: เทคนิคเพี้ยนๆที่เปลี่ยนชีวิตได้จริง by Tara Thow
Blogspot: tarathow.blogspot.com
Tiktok: @tarathow
ติดต่องาน: ไลน์ไอดี tara.thow
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น