02 มกราคม 2565

เข้าใกล้คำว่า ‘อิสรภาพทางการเงิน’ ง่ายๆ แค่ 1 เทคนิคลับ ที่ไม่มีใครกล้าบอก

ทาร่าเชื่อว่า ‘อิสรภาพทางการเงิน’ เป็นเรื่องที่หลายๆ คนใฝ่ฝัน และเป็นคอนเซปที่โค้ช ครู กูรู หลายๆ ท่านพยายามที่จะสอนสั่งกันมา ประหนึ่งเป็นเป้าหมายที่มีไว้ให้ทุกคนพุ่งชน


แต่ที่น่าเสียดาย คือ ทาร่ายังไม่ค่อยได้ยินใครพูดถึงความหมายที่แท้จริงของคำนี้ซักเท่าไหร่


ก่อนที่เราจะไปถึงได้ เราต้องเข้าใจก่อนว่า “อิสรภาพทางการเงิน” ที่แท้จริงมันคืออะไร และมันมีหน้าตาเป็นยังไง มันประกอบไปด้วย 2 ส่วนค่ะ


“การเงิน” หมายถึง สกุลเงินต่างๆ ที่เรากำลังใช้อยู่ สิ่งที่เราต้องทำงานเพื่อให้ได้มา และสิ่งที่เราต้องใช้ออกไปเพื่อแลกกับสิ่งที่เราอยากได้


ส่วนคำว่า “อิสรภาพ” หรือ “อิสระ” ตามความหมายของพจนานุกรม ราชบัณฑิต แล้วมันแปลว่า ความเป็นไทแก่ตัว การไม่ขึ้นแก่ใคร และการไม่สังกัดใด


เพราะฉะนั้นความหมายของคำว่าอิสรภาพทางการเงินที่แท้จริงไม่ได้แปลว่า การมีเงินมากๆ ในแบบที่จะใช้ยังไงก็ได้ แต่มันกลับแปลว่า การที่เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขโดยที่เป็นไทแก่ตัวเองและไม่ได้เป็นทาสของเงินต่างหากล่ะ






—-------------


ตราบใดที่เรายังเอา “ความสุข” ของเราไปผูกติดไว้กับ “วัตถุ” ใดๆ ก็ตามที่ต้องแลกมาด้วย “เงิน” เราจะไม่มีทางเป็นอิสระจากเงินอย่างแท้จริงได้เลย ทาร่าบอกอย่างนี้หลายคนอาจจะยังเถียงในใจ แต่ทาร่าอยากให้คุณลองนึกภาพตามแบบนี้ค่ะ


ถ้าคุณคิดว่า “กระเป๋าแบรนด์เนม” จะทำให้คุณมีความสุข และคุณจะมีความสุขก็ต่อเมื่อได้ครอบครอบกระเป๋าแบรนด์เนมเท่านั้น อะไรที่น้อยกว่านั้นคุณไม่สามารถที่จะสุขได้แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหลังความ “ของมันต้องมี” คือ คุณจะต้องหาเงินอยู่ตลอดเวลา เพื่อมาจับจ่ายใช้สอยให้ตัวเองมีความสุข


ไม่ว่าคุณจะชอบงานที่ทำอยู่หรือไม่ก็ตาม… ตราบใดที่มันยังให้เงินคุณมากพอ คุณก็ยังยินดีที่จะทำต่อไป


บางคนก็ยินดีที่จะขึ้นโรงขึ้นศาล และตัดสัมพันธ์กับพี่น้องหรือแม้กระทั่งคนรักของตัวเอง… เพื่อให้ได้มาซึ่งเงิน


บางคนก็ยินดีที่จะต้องเสียสุขภาพ ทำงานที่เสี่ยงอันตรายกว่าปกติ…. เพื่อแลกกับเงินที่มากกว่าปกติด้วยเช่นกัน


พล็อตแต่งงานปลดหนี้หรือความสัมพันธ์ประเภทที่เรือล่มในหนองทองจะไปไหน ไม่ได้มีแค่ในนิยายเท่านั้น…….. แต่มันเป็นชีวิตจริงของใครหลายๆ คน


เล่ามาถึงตรงนี้แล้ว ทาร่าขอถามหน่อยค่ะว่า….


ตกลงแล้วเรากำลัง “ใช้เงิน” ในการซื้อเสื้อผ้า กระเป๋า นาฬิกา บ้านหรู รถสวย ฮอลิเดย์ต่างประเทศอยู่??


หรือเรากำลังถูก “เงินใช้” ให้ต้องทำงานงกๆ ทะเลาะกับพี่น้อง ขายจิตวิญญาณ ความรัก สุขภาพ และความสุขในชีวิต เพื่อมาเป็น “ทาสของเงิน” และกำลังรับใช้ “สังคมวัตถุนิยม” โดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ตัวกันแน่??




—-----------------


ถ้าอ่านมาถึงนี้แล้วคุณยังคิดว่าตัวเองกำลัง “ใช้เงิน” อยู่ แปลว่าความเห็นเราไม่ตรงกันแล้วแหละ คุณสามารถกดปุ่มกากบาทที่มุมบนขวาเพื่อออกจากหน้านี้ไปได้เลย


แต่ถ้าคุณอ่านคำถามเมื่อกี้แล้วรู้สึกเอะใจ และเกิดสงสัยขึ้นมาว่า….


เอ๊ะ!!! หรือเงินกำลังใช้เรา?? ตกลงเราเป็นทาสของเงินโดยที่ไม่รู้ตัวหรอกเหรอเนี่ยะ??


แล้วเราจะเป็นอิสระจากเจ้าเงินนี่ได้ยังไง?? (แกมันร้าย!!!)


คำแนะนำที่เปิดโลกทัศน์ทาร่าที่สุดที่ได้มาจากหนังสือ The 4 hours Work Week ของ Tim Ferris คือ เราต้องมีความสุขด้วยตัวเองให้ได้โดยที่พึ่งพาเงินน้อยที่สุดค่ะ!!!




Tim Ferris / Credit : Tim.Blog



ก่อนอื่นเลยเราต้องหาความสุขที่แท้จริงในชีวิตตัวเองให้เจอและเข้าใจมันอย่างถ่องแท้ สมมุติว่าคุณเป็นคนชอบทะเล มีความสุขทุกครั้งที่ได้ยินเสียงคลื่นซัดสาด สายลมพัดโชย และเชื่ออย่างสุดหัวใจว่าการได้ไปฮาวายจะทำให้คุณมีความสุข คุณกำลังมอบกายถวายวิญญาณเพื่อทริปฮาวายในฝัน และจะไม่ยอมรับอะไรที่น้อยกว่าฮาวายเป็นอันขาด (ปิ๊งป่อง!!! เงินกำลังใช้คุณอยู่)


แต่ถ้าคุณกล้าหาญพอที่จะประกาศอิสรภาพจากเจ้าเงินนั่นล่ะ


“จริงๆ แล้วชีวิตฉันก็ไม่ได้ต้องง้อแกขนาดนั้นนะ ถ้าฉันมีแกเยอะๆ ฉันอาจจะไปฮาวายเล่นๆ ซักครั้งหนึ่งในชีวิตก็ได้ แต่ถ้าฉันมีแกน้อยหน่อย ฉันก็จะไปบาหลีแทน และถ้าฉันมีแกน้อยมากๆ ฉันก็จะไปบางแสนแทน หรือถ้าฉันไม่มีแกเลย ฉันก็จะนอนดูแม่เงือกน้อยตัวเขียวผมแดงผ่านทาง Netflix อยู่ที่บ้านมันนี่แหละ และฉันก็ยังจะมีความสุขเท่ากันด้วย” (เชอะ สบัดบ๊อบใส่เงินนิดนึงพอเป็นพิธี)


งานไหนที่ไม่มีความสุข.. ฉันก็จะไม่ทน


ความสัมพันธ์ที่ไม่ดี… ฉันก็พร้อมที่จะเดินจากได้ตลอดเวลา


และความเป็นพี่น้องของฉัน… ก็มีค่ามากกว่าแก (รึเปล่า?)


ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณสามารถเชิดหน้าสบัดบ๊อบใส่อำนาจเงินได้ เมื่อนั้นคุณจะเข้าใกล้กับความเป็นไท ความเป็นอิสระจากเงินมากขึ้น…… เงินจะซื้อคุณได้ยากขึ้นค่ะ!!!






—---------------------


แต่แน่นอนว่าสุดท้ายแล้วเราต้องมีเงินในการดำเนินชีวิต และเรายังต้องการเงินเพื่อมาอำนวยความสะดวกให้กับชีวิตของเรา 


เพราะฉะนั้นแค่ประกาศตัวเป็นไท เลิกเป็นทาสเงินยังไม่พอค่ะ 


เรายังจะต้องปฏิวัติเจ้าเงิน (ตัวแสบ) ยึดอำนาจจากมันมาให้หมด แล้วแต่งตั้งสถานะใหม่ให้มันกลายมาเป็นทาสของเราแทนค่ะ


“ถึงคราวที่แกจะต้องฟังฉันบ้างแล้ว!!!”


—---------------


แต่ก่อนที่เราจะสั่งมันได้ดั่งใจนึก เราก็จะต้องมีกองทัพเงินเยอะพอสมควรก่อนเนอะ 


ยิ่งกองทัพใหญ่เราก็จะสั่งได้สะใจหน่อย ถ้ากองทัพยังเล็กอยู่ เราบอกให้มันไปซื้อตั๋วฮาวายให้หน่อย มันก็จะเถึยงกลับมาว่า “ฉันพาบอสไปได้แค่บางแสนค่ะ จะไปมั้ย” แล้วสบัดบ๊อบคืนกลับมาบ้าง 😅


ไม่ต้องห่วงไปค่ะ การที่เราเป็นไทจากเงิน ไม่ได้หมายความว่าชีวิตนี้เราจะไม่มีเงินอีกแล้ววว โน้ โน โน่!!! ตรงกันข้ามกันเลยค่ะ


ถ้าเราไม่ต้องทนทำงานที่ไม่ได้รัก (เพื่อแลกกับเงิน) การได้เลือกงานอย่างอิสระ ในระยะยาวจะทำให้เรามีเงินมากขึ้น


ถ้าเราไม่ต้อนทนกับความสัมพันธ์แย่ๆ (เพื่อแลกกับเงิน) คนรักดีๆ คนที่คู่ควร จะเข้ามาส่งเสริมให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้น และสุดท้ายแล้วความสุขในชีวิตคู่นี่แหละที่จะเป็นแรงส่งให้เราทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ สุดท้ายแล้วเงินมันก็จะกลับมาหาเราอยู่ดี (ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง)


ถ้าเราไม่ต้องทนอดหลับอดนอน ทำงานที่เสี่ยงอันตราย (เพื่อแลกกับเงิน) ถึงตอนนี้คุณก็คงจะเดาได้แล้วล่ะเนอะว่าสุขภาพดีๆ จะช่วยเราทั้งประหยัดเงินและอยู่ช่วยหาเงินให้เราได้ในระยะยาวไปอีกนานแค่ไหน


เราจะยังมีเงินค่ะ!!!






และเราสามารถสั่งได้ว่าจะให้มันทำอะไรเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายในชีวิตของเรา เป้าหมายที่มาจากตัวเราเองจริงๆ ไม่ได้มาจากกองทัพทาสเงินที่เจ้าเงินได้สร้างไว้ ถ้าระหว่างที่กองทัพเงินของเรายังเล็กๆอยู่ เรามีเป้าหมายที่จะให้มันเติบโต เราก็สามารถที่จะสั่งเจ้าเงิน (ทาสผู้ซื้อสัตย์) ของเราได้ว่า 


“แกอยู่รวมตัวกันอย่างสงบเสงี่ยม อย่าออกไปเพ่นพ่านที่ไหน ถ้าเห็นช่องทางเติบโตที่ไหนให้สะกิดบอกฉันด้วย…. ส่วนแก 389 บาท ออกไปซื้อตั๋วรถทัวร์ไปภูเก็ตให้ฉันหน่อย”


แต่เราจะไม่กลับไปอยู่ในโลกใบเดิมที่เจ้าเงิน (ตัวแสบ) ได้สร้างทาสไว้เยอะแยะจนกลายเป็นสังคมวัตถุนิยม และมีตัวมันเป็นบอสใหญ่คอยบงการให้เหล่านางทาสนายทาสทั้งหลายคอยรับใช้ ถวายร่างกายและจิตวิญญาณให้มัน ผ่านแค่ประโยคสั้นๆ ที่ว่า “ของมันต้องมี” อีกต่อไป


“พวกแกจะมาสร้างอุปทานหมู่ เอาฮาวายมาล่อ แล้วหลอกให้ฉันต้องทำงานงกๆ แบบนั้นไม่ด้ายยย”


“ฉันจะไปฮาวายก็ต่อเมื่อ “ฉัน” อยากไปฮาวาย เข้าใจตรงกันนะ!!”

 

❤🧡💛💚💙

 

นี่เป็นบทความที่ทาร่าตั้งใจเขียนมาก หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาอิสภาพทางการเงินอยู่บ้างนะคะ ใครอ่านจบ ขอคอมเม้นต์หน่อยนะคะ 😘

 

ส่วนใครที่กำลังมองหาสมดุลชีวิต เป๊ะปังทั้งเรื่องเงิน งาน ความรัก ครอบครัว สุขภาพ จิตวิญญาณ ใดๆ ก็แล้วแต่ ทาร่าแนะนำหนังสือเล่มนี้เลยค่ะ อ่านง่าย ทำง่าย ได้ผล “ของมันต้องมี” จริงๆค่ะ 😁

Credit : Pixabay


 

📙 หนังสือ "Power of Vision Board เปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ" โดย Tara Thow

 

แบบเล่มที่ Se-ed https://bit.ly/3mJ7fNl

E-book ที่ Meb: https://bit.ly/3Bljwh0

E-book ที่ Ookbee: https://bit.ly/3Bn43Nj

 

ช่องทางในการติดตามทาร่า

 

Facebook: https://www.facebook.com/pagetarathow

Youtube: https://www.youtube.com/c/TaraThow

IG: tarathow

Blockdit 1: มนุษย์แม่ลูกสองจากเมืองซิดนีย์ By Tara Thow

Blockdit 2: เทคนิคเพี้ยนๆที่เปลี่ยนชีวิตได้จริง by Tara Thow

Blogspot: tarathow.blogspot.com

ติดต่องาน: ไลน์ไอดี tara.thow

1 ความคิดเห็น:

  1. เยี่ยมเลยค่ะ เป็นอิสระทางการเงินด้วยค่ะ

    ตอบลบ