31 ธันวาคม 2564

อย่าเพิ่งตัดสินว่าตัวเอง "ไร้ค่า”

ทุกวันนี้เราเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นได้ง่ายมากค่ะ ยิ่งมีโซเชียลมีเดีย เรายิ่งใช้เวลาในการดูไลฟ์สไตล์ของคนอื่น ดูสิ่งที่เค้ามี บ้านที่เค้าอยู่ รถที่เค้าขับ ดูว่าวันหยุดไปเที่ยวที่ไหนได้ง่ายขึ้น เพียงไม่กี่นาทีเราก็รู้แล้วว่าคนๆนี้ มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตยังไง ยิ่งเราเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เรามีความภาคภูมิใจในตัวเองน้อยลงเท่านั้น



ทาร่าเชื่อว่าทุกคนคงเคยมีโมเมนต์ที่แบบ โอ้ยย ทำไมชีวิตเพื่อนเราดีขนาดนี้นะ แต่งงานกับคนรวย มีลูกน่ารักมาก ไม่ดื้อ ไม่ซนเลย หันกลับมามองที่เรา เฮ้อ (ถอนหายใจดัง) เราได้เห็นสิ่งที่คนอื่นมี ยิ่งทำให้เราคิดว่าชีวิตเรามันไม่ค่อยมีค่าเอาซะเลย (ไอ่ค่าที่พอจะมีอยู่บ้างก็เห็นจะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าบ้าน แล้วก็ค่าเทอมลูกนี่แหละ 😅)


เรื่องนี้มันจริงหรือเปล่า อย่ารีบร้อนค่ะ ฟังเรื่องที่ทาร่ามาแชร์ให้ผู้อ่านกันก่อน





เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของคุณยายสายค่ะ ชาวบ้านธรรมดาๆ มีอาชีพทอผ้าไหม อยู่ในชนบทแห่งหนึ่งค่ะ ที่หมู่บ้านแห่งนี้ทุกคนมีอาชีพคล้ายๆ กัน คือหากินด้วยการทอผ้าไหม ภายใน 1 ปี จะมีพ่อค้ามารับซื้อผ้าไหมที่นี่ทุกๆ 2-3 ครั้ง เพื่อนำไปขายต่อในเมือง 



หมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านที่ห่างไกลความเจริญ แต่โชคดีที่ปีนั้นมีเด็กนักเรียนคนหนึ่งเรียนดีได้รับทุนการศึกษาไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ทุกช่วงปิดเทอมน้องนักศึกษาก็กลับไปเอาผ้าไหมจากหมู่บ้าน ไปขายให้กับคนในมหาวิทยาลัย เพราะอย่างที่รู้กันว่า วงการข้าราชการ ต้องมีการใส่ผ้าไหมกันตลอด มีลูกค้าทุกระดับเลย อธิการ อาจารย์ เจ้าหน้าที่ อุดหนุนผ้าไหมน้องคนนี้ตลอดเลย 



เทอมนี้น้องเค้ากลับไปที่หมู่บ้านแล้วไปตระเวนถามคนในหมู่บ้านเช่นเดิม ทุกคนก็เอาผ้าไหมมาให้น้องช่วยขายกันเยอะแยะ ติดราคาเรียบร้อย แต่มียายสายคนเดียวนี้แหละที่ไม่ได้ฝากไป น้องนักศึกษาเลยไปถามและได้คำตอบว่า “โอ้ย ยายคงไม่ได้ฝากไปขายแล้วล่ะลูก อายุเยอะแล้วรู้สึกว่าผ้าไหมที่ยายทอ มันไม่สวยเลย เนี่ย ตาเริ่มไม่ดี ทอผืนสุดท้ายเสร็จแล้วเพิ่งมาเห็นว่า มันมีขี้ไหมติดอยู่” พูดพลางหยิบเอาผลงานไร้ค่าของตัวเองออกมาให้ละอ่อนตรงหน้าดู








ยายยังบอกต่ออีกว่า “เนี่ยจะใส่เองมันก็ไม่สวย เอาไปให้คนในหมู่บ้านก็ไม่กล้า คนในหมู่บ้านเค้าดูแล้วรู้เลยว่าถ้ามีขี้ไหมเนี่ย มันไม่สวย พ่อค้ามารับซื้อยายก็ไม่กล้าขาย” คุณยายก็บ่นต่อว่า “เนี่ยยายว่าคงแก่เกินแล้วลูก ต่อไปคงไม่ได้ทอส่งแล้วนะ”







น้องนักศึกษาก็บอกว่า “ไม่เป็นไรหรอกยาย มีขี้ไหมนิดเดียว ยายขายแบบลดราคาก็ได้ ไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะ”  ยายสายตอบตกลงไปทั้งที่กล้าๆ กลัวๆ เพราะเอ็นดูน้องนักศึกษา แกไม่ได้คิดอะไรมาก แถมยังบอกว่าไม่ต้องคิดแพงๆ นะ เพราะของมันไม่ดีเท่าไหร่ “ถ้าขายไม่ได้ก็เอาไปทำชุดอยู่บ้านใส่นะลูก แต่ค่าตัดจะคุ้มรึเปล่าล่ะ แต่อย่างน้อยก็น่าจะได้ผ้าปูโต๊ะแหละเนอะ” ยายสายแซวผลงานตัวเองแก้เขิน






พอเปิดเทอมน้องนักศึกษาเอาผ้าไหมไปขายที่มหาวิทยาลัยเหมือนเดิม พอไปถึงทุกคนก็รีบกรูเข้ามาช้อปปิ้งผ้าไหมที่อิมพอร์ตมาจากชนบท ที่ถักทอด้วยมือแท้ๆ ไม่มีเครื่องจักรเจือปนแน่นอน อาจารย์ก็เลือกช้อปกันไปจนกระทั่งมีอาจารย์คนนึงเห็นผ้าไหมผืนที่มีตำหนิของยายสายแล้วก็รีบหยิบขึ้นมาลูบคลำเหมือนค้นพบสมบัติอันล้ำค้าแอบซ่อนในกองผ้าธรรมดา



อาจารย์หยิบแล้วเรียกเพื่อนมาดู “เธอดูผ้าผืนนี้สิ ทำไมมันสวยอย่างนี้ มีความเป็นไหมแท้ๆ มาก เนี่ยขี้ไหมหรือปมไหม ถ้ามีติดอยู่ผ้าบ้างแต่ไม่มากนะ มันเป็นธรรมชาติแท้ๆ ของไหมเลย เนี่ยหายากมากนะ” เพื่อนอาจารย์อีกคนก็รีบเข้ามาดูแล้วพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นไม่แพ้กัน “เริ่ดอะ ไหนดูซิมีผืนไหนอีกบ้างที่มีขี้ไหม ฉันอยากได้บ้าง”





ทุกคนก็ช่วยกันดูว่ามีผ้าผืนไหนอีกไหมที่ยังมีขี้ไหม ปรากฏว่าผ้าทั้งหมดไม่มีขี้ไหมเลย ทำให้ผ้าไหมของยายสาย กลายเป็นของหายากขึ้นมาทันที ทุกคนต่างอยากได้ อาจารย์ถามราคาแล้วก็รีบตัดสินใจคว้าเงิน 3,000 บาทแล้วยื่นให้นักศึกษาทันที  






อ่านจบแล้วทุกคนคิดว่ายังไงคะ ทาร่า คิดว่าเรื่องนี้ทำให้เราได้คิดเลยว่า ทุกสื่งทุกอย่างมันมีค่าในตัวเอง ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมองเห็นค่าในตัวเราเองหรือปล่าว บางทีสิ่งที่ยายสายคิดมันอาจจะเกิดจากที่สภาพแวดล้อม เพราะทุกคนในหมู่บ้านล้วนทอผ้าไหมให้เนียบ ทำให้ไม่มีขี้ไหมติด แต่พอไปฝั่งของลูกค้าที่มองเห็นว่า ขี้ไหม เป็นสิ่งที่หายาก เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าสิ่งที่ตนใส่เป็นผ้าไหมทอมือ ทำให้ผ้าไหมของยายสาย มีคุณค่าขี้นมาทันที 


 

บางครั้งวันนี้คุณอาจมองไม่เห็นค่าในตัวเอง ด้อยค่าในตัวเอง เพราะเราอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิม เพิ่มเติมคืออยู่ในโลกที่มีการแข่งขัน แถมแข่งขันกันได้ง่ายมาก เราอาจเผลอลืมไปว่าเรามีสิ่งที่มีค่าในตัวเราอยู่นั่นเอง 



ทุกคนมีค่าอยู่ในตัวเองค่ะ อยู่ที่เรารู้มั้ยว่าค่าของเราอยู่ที่ส่วนไหน แต่ถ้าใครอยากพัฒนาให้ตัวเองมีค่ามากกว่าที่คิด ด้วย how-to ทำ vision board ให้ได้ผลเป๊ะปัง เสกชีวิตในฝันได้ง่ายๆ แค่หารูปที่เราชอบมาแปะๆ ไว้ในที่ๆ สามารถมองเห็นได้ทุกวัน ทาร่าขอแนะนำเล่มนี้เลยค่ะ หนังสือ "Power of Vision Board เปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ" โดย Tara Thow



สนับสนุนทาร่าได้ที่

 

📙📙📙

 

หนังสือ "Power of Vision Board เปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ" โดย Tara Thow

แบบเล่มที่ Se-ed https://bit.ly/3mJ7fNl

E-book ที่ Meb: https://bit.ly/3Bljwh0

E-book ที่ Ookbee: https://bit.ly/3Bn43Nj

Facebook: https://www.facebook.com/pagetarathow

Youtube: tarathow

IG: tarathow

Blockdit 1: มนุษย์แม่ลูกสองจากเมืองซิดนีย์ By Tara Thow

Blockdit 2: เทคนิคเพี้ยนๆที่เปลี่ยนชีวิตได้จริง by Tara Thow

Blogspot: tarathow.blogspot.com

ติดต่องาน: ไลน์ไอดี tara.thow


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น