10 ธันวาคม 2564

ทำไมเราควรตั้งเป้าหมายแบบไร้เหตุผล

เชื่อว่าทุกคนคงเคยตั้งเป้าหมายในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายเล็กๆ น้อยๆ เช่น เดือนนี้เราจะซื้อโทรทัศน์เครื่องใหม่ หรือ ปีนี้เราจะกลับบ้านมาฉลองกับครอบครัว ไปจนถึงเป้าหมายใหญ่ๆ เช่น ปีนี้เราจะต้องซื้อบ้านให้ได้ ทุกอย่างล้วนเป็นเป้าหมายในชีวิต


วันนี้ ทาร่า จะมาแชร์เรื่องราวของ Bob Proctor นักแสดงหลักจากภาพยนตร์สารคดีเรื่อง The Secret ซึ่ง เป็นเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับการตั้งเป้าหมายของเรา ที่บ็อบได้บอกไว้ว่าสามารถแบ่งได้เป็น 3 ระดับ และอยากให้เราลองถามตัวเองว่าตอนนี้เป้าหมายของเรานั้นอยู่ในระดับไหนกันบ้าง



ระดับที่ 1 คือระดับ Common sense เป็นเป้าหมายระดับง่าย ๆ เป็นสิ่งที่เราทำได้ แล้วเราก็รู้อยู่แล้วว่าเราทำได้ เช่น เรารู้แล้วว่าถ้าเราทำงานแบบนี้ ทำผลงาน รายได้ให้องค์กรขนาดนี้ เราก็รู้อยู่แล้วว่าเค้าจะให้เราเลื่อนขั้นได้เงินเดือนเพิ่มมา 5% เราก็ตั้งเป้าหมายไว้ว่าปีหน้าเราจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 5%



เป้าหมายระดับที่ 2 เป็นเป้าหมายที่ออกนอก Comfort zone มานิดนึง ตั้งแบบให้เรารู้สึกท้าทายนิด ๆ แต่ก็ยังพอมองออกว่าเราจะต้องทำยังไงเพื่อให้ถึงเป้าหมายนี้ เช่น ถ้าเราอยากได้หารายได้เพิ่มอีกซัก 30% แน่นอนว่างานประจำเราไม่สามารถตอบโจทย์ได้แน่ๆ งั้นเราก็ใช้เวลาว่างช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ไปขายของที่ตลาดนัด หรือขายของออนไลน์ก็ได้ แบบนี้เรายังพอมองออกว่าจะต้องไปทางไหน เหลือก็แค่ลงมือทำเท่านั้น



เป้าหมายระดับที่ 3 เป็นเป้าหมายประเภท To the moon คือลอยไปไกลถึงดวงจันทร์ หรือดาวพุธไปเลยค่ะ เป็นเป้าหมายที่แม้แต่เราก็ยังมองไม่เห็นทางไปถึง เช่น ฉันอยากมีรายได้มากกว่านี้ 10 เท่า จะทำอะไร ยังไงก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่าจะต้องไปให้ถึงให้ได้ 



บ็อบบอกว่าเป้าหมายแบบที่ 3 นี่แหละที่จะเป็นตัวกระตุ้นศักยภาพ กระตุ้นจินตนาการ ความคิดนอกกรอบ การศึกษาเพิ่มเติม เพื่อหาทางทำให้เป้าหมายนี้เป็นไปได้ 


เป้าหมายแบบไร้เหตุผล หรือเป้าหมายแบบ To the moon นี่สำคัญมากๆ แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้เป้าหมาย และเป็นกุญแจสำคัญที่พาเราไปถึงเป้าหมายก็คือ ตัวเรา! นี่แหละ


ใช่ค่ะ เราต้องกล้าที่จะตั้งเป้าหมายแบบไร้เหตุผลนี้ก่อน เช่น ฉันอยากมีรายได้มากกว่าเดิม 10 เท่า !!! 


เป้าหมายที่ไร้เหตุผล จะทำให้เราคิดแบบไร้เหตุผล ลงมือทำแบบไร้เหตุผล และสุดท้ายแล้วก็จะได้ผลลัพธ์แบบไร้เหตุผล ชนิดที่ตัวเราเองก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่า เรามีศักยภาพถึงขนาดนี้เลยเหรอ จนบางครั้งพอเรามองย้อนกลับไปเราจะคิดว่าไม่น่าเชื่อเลยว่าเราจะเดินมาได้ไกลขนาดนี้ 


ว่าแล้วก็ขอฝากผลงานอีกอย่างของทาร่าไว้ด้วยนะคะ ใครอยากตั้งเป้าหมายแบบจับต้องได้ และทำได้จริง เล่มนี้เหมาะมากๆ สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนชีวิต เสกชีวิตใหม่ได้ดั่งใจค่ะ Power of Vision Board: เปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ







📙📙📙


หนังสือ "Power of Vision Board เปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ" โดย Tara Thow

แบบเล่มที่ Se-ed https://bit.ly/3mJ7fNl
E-book ที่ Meb: https://bit.ly/3Bljwh0
E-book ที่ Ookbee: https://bit.ly/3Bn43Nj

❤️🧡💛💚💙

ติดตามทาร่าได้ที่:

Youtube: tarathow



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น